ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บอลไทยระเบิดศึกเอฟเอ คัพ 27 มิ.ย.


สวัสดีครับ แฟนไทยลีก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จับมือ กกท. มูลนิธิไทยคม และ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท ปลุกศึกลูกหนัง เอฟเอ คัพ 2009 คืนชีพอีกครั้ง หลังจากหลับยาวนานกว่า 10 ปี โดย 64 ทีมในเมืองไทย ร่วมฟาดแข้ง ตั้งแต่ ถ้วย ข.,ค. และ ง. จนถึง ไทยพรีเมียร์ลีก รอบแรกจับสลากประกบคู่ 32 ทีม จากทีม ด.2 ลงไป นัดแรก 27 มิ.ย. นี้ แชมป์รับ 1 ล้าน พร้อมคว้าสิทธิ์เป็นตัวแทนจากเมืองไทย ไปลุยศึก เอเอฟซี คัพ ฤดูกาลหน้าทันที


ที่ห้องประชุมบุหงา ภายในโรงแรมเรดิสัน ได้มีการแถลงข่าวจัดการแข่งขัน ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2009 ซึ่งสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมมือกับ 3 หน่วยงาน มูลนิธิไทยคม, การกีฬาแห่งประเทศไทย และบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด มหาชน จัดการแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากห่างหายจากวงการลูกหนังไทยนานกว่า 10 ปี

บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีบุคคลสำคัญมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม, วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, พีระ ฟองดาวิรัตน์ รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ และอื่นๆ อีกมากมาย

วัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2009 เพื่อต้องการจัดการแข่งขันให้สอดคล้องกับนโยบายของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย อันจะเป็นการเร่งรัดพัฒนากีฬาฟุตบอลของประเทศไทย ให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น และก้าวหน้าไปสู่ระดับเอเชีย และระดับโลกต่อไป

การแข่งขันครั้งนี้ จะมีทีมเข้าร่วมฟาดแข้ง 64 ทีม แบ่งเป็นทีมจากไทยพรีเมียร์ลีก 16 ทีม, ดิวิชั่น 1 มี 16 ทีม และจากดิวิชั่น 2, ถ้วย ข.,ค. และ ง. อีก 32 ทีม ซึ่งจะแข่งขันในระบบแพ้คัดออก รอบแรกจะทำการจับสลากประกบคู่ 32 ทีมจากดิวิชั่น 2, ถ้วย ข.,ค. และ ง. ซึ่งจะทำการแข่งขัน วันที่ 27-28 มิถุนายน และ 4-5 กรกฎาคม ที่สนามฟุตบอลหนองจอก และสนามหญ้าเทียม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ส่วนรอบที่สอง จะนำ 16 ทีมที่ชนะจากการแข่งขันในรอบแรก มาเล่นกับอีก 16 ทีมในดิวิชั่น 1 ซึ่งจะแข่งขัน ระหว่างวันที่ 11-19 กรกฎาคม จากนั้นรอบที่ 3 จะนำ 16 ทีม ที่ชนะจากการแข่งขันรอบที่สอง มาจับสลากเล่นกับ 16 ทีม ในไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งจะแข่งขันกัน ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม-26 สิงหาคม จากนั้น ทีมที่ชนะก็จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย, 8 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศตามลำดับ

ตั้งแต่รอบที่ 2 จนถึงรอบรองชนะเลิศ จะแข่งขันในสนามเหย้าของทีมที่ถูกจัดลำดับชื่อขึ้นนำหน้า ส่วนรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 21 ตุลาคมนี้ ซึ่งทีมที่ชนะเลิศ จะรับเงินรางวัล 1 ล้านบาท พร้อมกับได้สิทธิ์เป็นตัวแทนของทีมสโมสรไทย ไปการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี คัพ ในฤดูกาลหน้าทันที

ด้าน วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ จะช่วยให้เกิดกระแสการตื่นตัวของฟุตบอลไทยมีมากขึ้น"

ขณะที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม กล่าวว่า "นอกจากจะมูลนิธิไทยคม จะมีส่วนร่วมในการจัดฟุตบอล เอฟเอคัพ 2009 แล้ว ยังจัดกิจกรรมพิเศษ เปิดคลินิกสอนฟุตบอลให้แก่เยาวชน ก่อนที่ฟุตบอลจะเตะอีกด้วย"

ที่มา http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090612_117.html

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์

สวัสดีปีใหม่ไทย เทศกาลสงสงกรานต์ หลายทีมในลีกอาชีพใด้พักซ้อม 2-3 วัน แต่มีทีมเดียวคือ จุฬา ยูไนเต็ด ซ้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กุนซือใหญ่ชาวแซมบ้า โจเซ่ แฟร์ไรร่า สุดเฮี้ยบ สั่งนักเตะซ้อมตะลุยช่วงสงกรานต์เต็มที่แบบไม่มีหยุดสงกรานต์ อีกทีมที่หยุดวันเดียวคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด หวั่นนักเตะกลับมาหมดสภาพ สั่งให้พักแค่ 13 เม.ย. วันเดียว นักเตะอาชีพเป็นงานที่แปลกกว่าอาชีพอื่นมากเลยครับ เทศกาลสงกรานต์นี้ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ rich_t

ทีโอทีขึ้นป้ายขายกบไซเบอร์อย่างต่ำ1ล้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลในศึก ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ช่วงพักเบรกให้ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ 2 นัด โดย ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 ของตาราง จากการออกสตาร์ต 3 นัดแรก ได้ตั้งราคาขายนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมดีกรีทีมชาติไทย "กบ ไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีม ที่ถือเป็นนักเตะแม่เหล็กประจำทีมอย่างแท้จริง ที่ราคาถึง 1 ล้านกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมทีโอที กล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าเราคิดจะขาย สุเชาว์ นุชนุ่ม เพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เป็นกำลังหลักสำคัญของเราในขณะนี้ แต่หากมีทีมไหนต้องการอยากได้ตัวเขาไปเล่นให้จริงๆ ในฟุตบอลอาชีพ โดยเราตั้งราคาขายไว้ที่หลัก 1 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเล่นกับเรามานาน เรื่องฝีเท้าการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีดีกรีติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง" "หากถามผมว่า อยากจะขายให้ทีมในประเทศหรือไม่ คงไม่อยากขาย แต่ต้องการให้เขามีโอกาสได้ไปเล่นกับลีกต่างชาติมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสลีกของสิงคโปร์หรือวีลีกของเวียดนาม เพื่อมีโอกาสได้ไปเก็บเงินสักก้

ชัยนาทเปิดตัวชุดแหวกแนวทุ่มงบ200ล้านเปลี่ยนชื่อหวังติดท็อปไฟ

ชัยนาท ฮอร์นบิล ในชื่อใหม่เปิดตัวชุดแข่งขัน 2014 สุดฉีกแนวพร้อมประกาศงบ 200 ล้านบาทเทียบเท่าบิ๊กทีมหวังผฝาดท็อปไฟว์ของตาราง สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล หรือ ชัยนาท เอฟซี เดิม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมฤดูกาล 2014สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (15 ก.พ.) โดยมี อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสรเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ชัยนาท ตัดสินใจนำคำว่า ฮอร์นบิล (hornbill) ซึ่งแปลว่านกเงือกสัญลักษณ์ประจำสโมสรและจังหวัดมาต่อท้ายชื่อ พร้อมกับประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 200 ล้านบาท เทียบเท่ากับสโมสรชั้นนำ โดย "เสี่ยแฮงค์" ประธานสโมสรหวังพาทีมจบ 5 อันดับแรกของตารางไทยพรีเมียร์ลีก "ทีมชัยนาทในปีนี้ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงทีม ไม่ว่าจะเป็นการส่วนซื้อตัวผู้เล่นผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม เพื่อให้สโมสรมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเป้าหมายอย่างต่ำต้องติดท็อปเท็นของตาราง แต่จะให้ดีต้องติด 1 ใน 5 ถ้าทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ" สุรชัย จตุรภั