หวิดสิ้นชื่อ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล กุนซือ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี หลับในขณะขับรถไปคุมนักเตะ ชลบุรี เอฟซี ซ้อมเตรียมลุยแข้ง ซุปเปอร์คัพ 2009 รถยนต์คู่ชีพพุงชนตอหม้อ บริเวณลงทางด่วนอมตนครขาเข้าเมืองชลบุรี พลิกคว่ำหลายตลบ รถพังยับเยินไร้สภาพเดิม ผลตรวจซีจีสแกน รพ.ปิยะเวช ระบุ กระดูกสันหลักข้อที่ 3 แตก แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว เวลานี้รอวินิจทางการแพทย์ ว่าจะให้ผ่าตัดตรงบริเวณดังกล่าว หรือไม่
หวิดสิ้นชื่อ โค้ชยอดฝีมือวงการลูกหนังไทย "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหะกุล ซึ่งเพิ่งย้ายกลับจากสโมสรโตโตริ ในลีกญี่ปุ่น เพื่อรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคให้กับ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี หลังควบรถยนต์ คู่ชีพยี่ห้อ ซีอาร์วี ทะเบียน วท.7275 กรุงเทพมหานคร พุงชนตอหม้อ บริเวณลงทางด่านอมตนคร ก่อนเข้าเมือง ชลบุรี ขณะเดินทางไปคุมนักเตะสโมสร ชลบุรี เอฟซี ซ้อมเตรียมลุยศึกซุปเปอร์คัพ 2009 นัดสุดท้ายกับ บีอีซี เทโรฯ วันที่ 27 ธ.ค. นี้
เป็นผลให้รถยนต์พังยับเยินไร้สภาพเดิม ขณะที่เจ้าตัวได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลังยุบ ขณะเดียวกัน ยังส่งผลมาถึงรถยนต์ของ "เจ้าตั้ม" ชวฤทธิ์ เขียวชอุ่ม ลูกทีม ที่ขับรถอีกคันตามหลัง ถูกกระปุกเกียร์ลอยมาชนเข้าเต็มเปาจนรถพังไปอีกราย แต่ ชวฤทธิ์ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ก่อนที่เบื้องต้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ จะนำส่ง โรงพยาบาลจุฬารัตน์ ต่อมาได้ส่งตรวจ ซีจีสแกน กระดูกสันหลังที่ โรงพยาบาลปิยะเวช ย่านพระราม 9 โดยผลตรวจทีมแพทย์ ระบุว่า กระดูกสันหลักข้อที่ 3 แตก ซึ่งเวลานี้อยู่ในช่วงของการวินิจฉัยว่า อาการจะหนัก ถึงขั้นผ่าตัดบริเวณดังกล่าว เป็นการรักษาลำดับต่อไปหรือไม่
"โค้ชเฮง" วิทยา เลาหะกุล กุนซือ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี เปิดเผยขณะอยู่ในอาการสลึมสลือ กับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์หวิดสิ้นชื่อครั้งนี้ว่า ตนกำลังขับรถอยู่ดีๆ แต่พอลงบริเวณทางด่วนอมตะนคร รู้สึกตัวว่าวูบไป หลังจากนั้น มันก็จับต้นชนปลายไม่ถูกมารู้ตัวอีกที ตนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว
กุนซือ "ฉลามชล" ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ถือว่าเป็นความโชคดีของตัวเอง ที่ไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้ เหมือนกับมีอภินิหารของ "พระรอดลำพูน" ที่คล้องคอมาตั้งแต่เด็กช่วยชีวิตเอาไว้ ส่วนการคุมทีมชลบุรี เล่นนัดสุดท้ายในศึกซุปเปอร์คัพ นั้นก็อยู่ที่บอร์ดบริหารของสโมสรจะตัดสินใจ เพราะตัวเองคงจะไปทำทีมไม่ได้แน่นอนแล้ว"
ขณะที่ "มาดามอ้อย" ทิพาภรณ์ เลาหะกุล ภรรยาคู่ชีวิต ของ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหะกุล เผยว่า "เมื่อคืนที่ผ่านมา "โค้ชเฮง" เขาก็พักผ่อนอย่างเต็มที่ เรื่องหลับในไม่น่าจะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งบางทีอาจจะมาจาก ความเครียดรวมทั้งอายุที่มากขึ้น ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามนับว่าโชคดี ที่ไม่เป็นอะไรมาก ต่อจากนี้ก็คงให้เขาพักผ่อนเยอะๆ เรื่องที่จะให้ทำทีมฟุตบอลต่อไปหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเขา เราเองในฐานะภรรยา คงทำได้เพียงแค่เตือนให้ระวังในเรื่องการขับรถเท่านั้นเอง เพราะการทำทีมฟุตบอลถือว่าเป็นส่วนในในชีวิต ของเขาที่ยากจะตัดขาดจากกัน ซึ่งเราก็รู้มาตลอดพร้อมกับเป็นกำลังใจให้เสมอ" "มาดามอ้อย" กล่าว
ที่มา http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/091226_074.html