ซึ่งหลังจากที่ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ในฐานะผู้ดูแลจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกและลีกดิวิชั่น 1 ของไทย ได้ส่งหนังสือไปยังประธานสโมสรต่างๆ ให้ตอบรับมาว่าจะเลือกแนวทางไหนระหว่าง 7 ลง 5 หรือ 5 ลง 3 ในช่วงที่ผ่านมา ปรากฏว่าล่าสุดมี 15 จาก 16 ทีมได้ส่งหนังสือตอบกลับมายัง บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด แล้ว โดยหนังสือดังกล่าวได้ลงสนามมา โดยประธานสโมสรของแต่ละทีมปรากฏว่ามี 9 สโมสรเห็นด้วยกับแนวทางมีนักเตะต่างชาติได้ 7 คนในทีมและลงสนามได้ 5 คน ประกอบด้วย เมืองทองฯ ยูไนเต็ด, บีอีซี เทโรศาสน,โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี, ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร, บุรีรัมย์ กฟภ., ราชนาวี-ระยอง, เพื่อนตำรวจ, ทหารบก และ ศรีสะเกษ เอฟซี
ส่วนทีมที่ตอบกลับมาว่าต้องการใช้สูตร 5 ลง 3 มี 5 ทีม ประกอบด้วย ชลบุรี เอฟซี, บางกอกกล๊าส เอฟซี, พัทยา ยูไนเต็ด, แบงค็อก ยูไนเต็ด และ สมุทรสงคราม ส่วน การท่าเรือไทย เอฟซี นั้นตอบกลับมาแล้วแต่ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จะเป็นผู้กำหนด ส่วน ทีโอที ที่ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงคนทำทีมนั้น ยังไม่มีการตอบรับกลับมา
ดร.วิชิตเล็งแก้ระเบียบแข่ง,ตกชั้นอาจแค่ 3
ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้ออกมากล่าวกับ นสพ.สยามกีฬา ว่า "ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่จาก 16 สโมสรเป็นเอกฉันท์ที่ 9 ต่อ 5 เช่นนี้ เราก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจมาโดยประธานสโมสร อย่างนี้แล้วเท่ากับว่าในไทยพรีเมียร์ลีก 2010 ที่จะเริ่มเปิดสนามตั้งแต่ 7 มี.ค. 53 เป็นต้นไปนั้น บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด, สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็จะต้องไปแก้ระเบียบการแข่งขันใหม่ในเรื่องของตัวผู้เล่นต่างชาติที่แต่ละ ทีมจะมีใช้งานและลงสนามได้ใหม่เป็นแต่ละทีมสามารถมีผู้เล่นต่างชาติได้ 7 คนในทีมและลงสนามได้แต่ละเกมรวมตัวสำรองไม่เกิน 5 คน ส่วนเรื่องของโควตาทีมตกชั้นที่ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าจะให้ตกชั้น 4 ทีมและขึ้นชั้นมาจากลีกดิวิชั่น 1 4 ทีมเช่นกันนั้น ผมมองว่าเป็นการตกชั้นที่มากเกินไปลีกบ้านเรามีแค่ 16 ทีม หากตกชั้นถึง 4 ทีม เท่ากับมีอัตราส่วนตกชั้น 1 ต่อ 4 เลยทีเดียว ลีกต่างชาติอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มี 20 ทีม เขายังตกแค่ 3 ทีมเท่านั้น เรื่องนี้คงต้องขอความเห็นจากสมาชิกสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกอีกครั้งก่อน"
ไม่รู้ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ได้คุยกับ คุณ วรวีร์ มะกูดี นายก ส.ฟุตบอลฯ หรือเปล่า ก่อนจะส่งหนังสือไปที่ 16 สโมสร ?