ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แบนสิงห์เจ้าท่าห้ามแฟนเข้าชมเอเอฟซีคัพ


ความคืบหน้าจากเหตุการณ์แฟนบอล "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย แฟนบอล "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ในศึกลูกหนังชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ประจำปี 2552 เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมาเป็นเหตุให้แฟนบอลของ เมืองทองฯ ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวถึง 8 รายอีก 1 รายเป็นแฟนบอลทางฝั่งการท่าเรือฯ ที่เข้าใจผิดตีกันเอง


ตำรวจรู้ตัวคนทำผิดทั้งหมด


ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ทาง พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบ.บชน. ได้เปิดแถลงข่าวถึงความคืบหน้าในการหาตัวผู้กระทำความผิดจากเหตุการณ์ดัง กล่าว ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ท่ามกลางสื่อมวลชนทุกแขนงที่ให้ความสนใจเดินทางมาทำข่าวกันอย่างคับคั่ง เผยว่าอีก 2 วันเราจะออกหมายจับผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ซึ่งดำเนินการจับกุมอาจจะไม่เจาะจงว่าเป็นใคร

โดยเราจะใช้วิธีการใช้พยานแวดล้อม โดยเฉพาะ สห. ที่อยู่ใกล้กับเหตุการณ์ชี้ตัวมาดำเนินคดี ในส่วนของการลงโทษดูตามเหตุการณ์ หากผู้ได้รับบาดเจ็บที่เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดนทำร้ายร่างกายธรรมดาอาจจะถูกจำคุก 2 ปี แต่ถ้าสาหัสจริงๆ จะต้องถูกจับคุก 7 ปี


รองผบ.บชน. ย้ำกฎในสนามต้องเข้ม


ต่อข้อซักถามว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปล่อยภัยในสนามศุภชลาสัย มีน้อยเกินกว่าที่จะควบคุมแฟนบอลหรือไม่นั้น รอง ผบ.บชน. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ในสนาม มีจำนวนไม่เพียงพอต่อการควบคุมฝูงชน ขนาดนั้นไม่ไหวอย่างแน่นอน ถือว่าเป็นบทเรียนของทางเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ในอนาคตเราคงจะมีมาตรการที่เข้มข้นมากกว่านี้

โดยเฉพาะการตรวจตรา อาวุธ, พลุ, ขวดน้ำ หรือสิ่งของที่จะใช้ทำร้ายร่างกายกันได้ ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ และมีตำรวจหญิง เพื่อตรวจแฟนบอลที่เป็นผู้หญิง ที่อาจจะจะรับฝากอาวุธจากแฟนบอลชายเข้าสนามด้วย ขณะเดียวกันมาตรการอื่นๆ คงจะเพิ่มทั้ง เครื่องกระจายเสียง รถดับเพลิงที่จะใช้ควบคุมฝูงชน


วรพงษ์ ยันรู้ตัวผู้ก่อเหตุเตรียมออกหมายเรียก


ด้าน "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งดำรงตำแหน่งสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุรุนแรง โดยตอนนี้ดูภาพและเห็นตัวผู้กระทำผิดไปพอสมควรแล้ว หลังจากออกหมายเรียกไปแล้ว จะมีการดำเนินคดีและส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไปโดยไม่มี การยกเว้น


"บิ๊กย้อย" เชื่อ จนท.ในสนามทำดีที่สุดแล้ว


"บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ เผยอีกว่า เรื่องของการรักษาความปลอดภัยในสนามวันเกิดเหตุ เท่าที่ดูจากเทปแล้ว เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารทำกันตามหน้าที่อยู่แล้ว เพราะฝูงชนมากมายขนาดนั้นไม่สามารถที่จะหยุดยั้งได้ด้วยความรุนแรง เพราะจะทำให้เป็นการยั่วยุแฟนบอลให้ยิ่งก่อเหตุรุนแรงมากยิ่งขึ้น การพยายามเข้าไปห้ามปรามเป็นเรื่องที่สมควรทำตามหน้าที่แล้ว แต่ด้วยจำนวนฝูงชนที่เข้าไปก่อเหตุมีมากมาย เป็นเรื่องยากที่จะหยุดยั้งได้


เอเอฟซีคัพแฟนดูได้แค่ดานังคนไทยห้าม


หลังจากที่ปิดห้องประชุมนาน 2 ชั่วโมง เวลา 17.00 น. ทางสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่นำโดย "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลไทย, "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผช.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเป็นอุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก, อ.อุดม อนันตพงษ์ ประธานพิจารณามารยาทและประท้วง, ดร.กษม ชนะวงศ์ รองเลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ, อ.โสภณ มหาบุญ เลขาธิการผู้ตัดสิน ได้เปิดแถลงข่าวถึงบทลงโทษ สโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ให้สื่อมวลชนที่มารอฟังการแถลงข่าวอย่างเนืองแน่น

โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่าก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางสื่อมวลชนที่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้า หน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ที่นำซีดีจากเหตุการณ์นี้มาให้พิจารณา เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ดีที่ประชุมได้ลงมติ ให้มีบทลงโทษสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ด้วยการห้ามแฟนบอลเข้าสนามในเกมเอเอฟซีคัพ จะพบกับสโมสร ดานัง วันที่ 24 ก.พ. นี้ พร้อมกันนั้นแฟนบอลทั่วไปที่เป็นคนไทยห้ามเข้าสนามด้วย ส่วนบุคคลที่จะเข้าสนามได้คือ นักฟุตบอลทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของทั้งสองทีม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของเอเอฟซี, สื่อมวลชน และแฟนบอลของสโมสรดานังเท่านั้น


ผช.ผบ.ตร.แห่งชาติกำชับความปลอดภัย


นอกจากนั้น "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวเสริมอีกว่า เรื่องความปลอดภัยในสนามฟุตบอลจากนี้ คงจะมีมาตรการที่เข้มงวด ในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก วันนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมารักษาการแบบต่างคนต่างมา ไม่มีผู้บัญชาการอย่างชัดเจน

ต่อไปนี้อาจจะจัดเป็นโมเดล คืออาจะมีผู้บังคับหมู่, ผู้บังคับหมวด หรือหากแฟนบอลเยอะ อาจจะใช้งานผู้บังคับกองร้อยไปเลย วางกำลังในจุดที่สำคัญๆ ที่อาจจะเป็นจุดล่อแหลมเสี่ยงต่อการเกิดเหตุ ขณะเดียวกันเครื่องตรวจตราต่างๆ อาทิ เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ อาจจะนำเอามาใช้ในสนามฟุตบอล ตรงนี้คาดว่า สมาคมฟุตบอลฯ มีงบเพียงพอที่จะซื้อมาใช้อยู่แล้ว


"เปี๊ยก" ยันเรียกสองทีมคุยกันแน่


ขณะที่ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ยืนยันถึงการที่จะเรียกสโมสรฟุตบอลเมืองทองฯ ยูไนเต็ด และ การท่าเรือไทย เอฟซี มาคุยกันในเร็ววันนี้แน่นอน แต่คงจะมาแบบต่างกรรมต่างวาระกันมากกว่าที่จะเรียกมาคุยในเวลาเดียวกัน ใครเป็นคนผิดใครก่อเหตุต้องดูแลแฟนบอลของตัวให้อยู่ในการควบคุมที่ดี

ในส่วนของกรอบการพิจารณาโทษ คงจะพิจารณากันไปตามขั้นตอนตามระเบียบของ เอเอฟซี และ ฟีฟ่า ซึ่งการทำร้ายร่างกาย คือความผิดทางอาญา การจุดพลุ เป็นเรื่องต้องห้ามในสนามฟุตบอลอยู่แล้ว ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก สนามแพท สเตเดี้ยม จะใช้เป็นสนามแข่งขัน ทั้งเหย้า-เยือน ต่อไปได้หรือไม่นั้นอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา


ทำหนังสือถึงพระราชวังขออภัยโทษ


นอกจากนั้น แม่บ้านลูกหนังไทย กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามศุภชลาศัยครั้งนี้ ถือว่าเป็นหนแรกในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. ซึ่งทางสมาคมฟุตบอลฯ จะร่างหนังสือถึงสำนักพระราชวัง เพื่อขออภัยโทษเป็นลำดับต่อไป


บิ๊กท่าเรือฯ ตั้งโต๊ะแถลงขอโทษ


ขณะที่เวลา 17.00 น. ที่ห้องประชุมสนามแพท สเตเดี้ยม รังเหย้าของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทยฯ ได้มีการแถลงข่าว เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมี นายพิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร พร้อมด้วย นายเจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง รองประธานสโมสร และ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอน ร่วมแถลงท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชน และแฟนบอลท่าเรือที่แห่กันมาเป็นอย่างมาก


พิเชฐ ขอโทษแฟนบอลทั่วประเทศ


โดย นายพิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร กล่าวว่า กระผมในฐานะประธานสโมสร การท่าเรือไทยฯ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากขอโทษแฟนบอลเมืองทองฯ ทุกคน รวมถึงแฟนบอลชาวไทยทั่วประเทศ ที่ทำให้เสียความรู้สึก โดย 2-3 วันที่ผ่านมาการท่าเรือไทยฯ ตกเป็นจำเลยของสังคมเป็นอย่างมาก แต่ผมอยากให้ทุกคนพิจารณาดูให้ดีว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเพราะอะไร โดยผมเป็นคนนึงที่ต้องการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ให้เป็นไปตามเป้าหมายของสมาคมฯ


ยันรับได้บทลงโทษหากยุติธรรม


นอกจากนั้น พิเชฐ กล่าวอีกว่า ขณะที่ทางสมาคมฯ กำลังประชุมพิจารณาโทษเราอยู่ ผมบอกได้เลยว่ารับได้กับบทลงโทษหากมีความเป็นธรรม ส่วนจะมาลงโทษในเกมเอเอฟซี คัพ นั้น ผมมองว่าไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เนื่องจากมันคนละรายการ และวันที่ 20 ก.พ. นั้น ผมไม่ได้เป็นคนจัด แต่วันที่ 24 ก.พ นี้ ผมเป็นคนจัดเอง ดังนั้นหากพิจารณาโทษไม่เป็นธรรมจะยื่นอุทธรณ์ทันที


ชี้ 5 องค์ประกอบ ผู้ตัดสิน อ่อนสุด


ประธานสิงห์เจ้าท่า กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการจะพัฒนาได้นั้น ต้องมีองค์ประกอบด้วยกัน 5 อย่าง คือ สมาคมฟุตบอลฯ ที่ต้องมีความเป็นมืออาชีพ, สโมสรทุกสโมสรที่ต้องมีการจัดการที่ดี, กรรมการผู้ตัดสินที่ถือเป็นจุดอ่อนมากในเวลานี้, นักฟุตบอลที่ต้องเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ และกองเชียร์ที่ต้องรู้ว่าควรจะเชียร์อย่างไร โดยที่ผ่านมาผมยอมรับว่า แฟนบอลส่วนน้อยเท่านั้น ที่ทำให้เสื่อมเสีย ทว่าส่วนใหญ่จะนั่งอยู่ที่นั่งของตนเอง ดังนั้นจะเหมารวมแฟนบอลท่าเรือฯ ทั้งหมดไม่ได้


บิ๊กท่าเรือฯ ยันไม่ได้วอล์กเอาต์


นอกจากนี้ประธานสโมสร การท่าเรือไทยฯ เผยต่อว่า ถึงตอนนี้ผมขอยุติทุกอย่างด้วยการยอมรับผิด ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นทุกคนพยายามจะคลี่คลายสถานการณ์ โดยผมเป็นคนประกาศว่าเมืองทองฯ เป็นแชมป์ถ้วย ก เพื่อให้เกมนั้นจบ และไม่ได้เป็นการวอล์กเอาต์อย่างแน่นอน เนื่องจากนักฟุตบอลของผมพร้อมที่จะลงสนามไปเล่นต่อเสมอ เพียงแต่ต้องการยุติสถานการณ์เท่านั้น


ให้โอกาสคนทำผิดหากมอบตัว


จากเหตุการ์ณที่เกิดขึ้น พิเชฐ มั่นคง เผยว่ารู้ตัวผู้ที่ลงไปทำร้ายร่างกายแฟนบอล เมืองทองฯ แล้ว โดยมีภาพที่เก็บได้ประมาณ 10 คน และขอให้มาพูดคุยกับตนและพร้อมจะให้โอกาสหากยอมรับผิด

"ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมยึดถือตลอดว่าการให้โอกาสคือความยิ่งใหญ่ และฤดูกาลที่แล้วผมได้แบนแฟนบอลตัวเอง 2-3 คน โดยที่ไม่ให้เข้าสนาม และหลังจากนั้นเขาเข้ามาขอโทษผมและสัญญาว่าจะไม่ทำอีก ถึงวันนี้ 2-3 คนนั้นเป็นกองเชียร์ที่ดี ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมพร้อมจะให้อภัยแฟนบอลที่ลงไปกระทำผิดในสนาม โดยวันนี้ผมได้เรียกให้เขามาพูดคุยกันประมาณ 10 คนด้วยการที่จับภาพได้และผมจะพูดคุยกับเขาและให้ไปมอบตัวเพื่อดำเนินคดีตาม กฎหมาย


ขอเป็นสโมสรแรกจัดอบรมแฟนบอล


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามต่อว่าจะมีมาตรการอย่างไรกับแฟนบอลเพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก นายพิเชฐ กล่าวว่า เราจะเป็นสโมสรในประเทศไทยที่จัดอบรมการเชียร์ฟุตบอลให้กับแฟนบอล โดยต้องยอมรับว่าทุกวันนี้คนเราโตกันจริงแต่โตไม่เหมือนกัน ซึ่งผมไม่ใช่ไฮโซ แฟนบอลผมไม่ใช่ไฮโซ ดังนั้นผมรู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับเขา โดยต้องการอบรมให้พวกเขารู้ว่าควรจะดูฟุตบอลอย่างไรให้เป็นมืออาชีพ


ขำกลิ้งข่าวลาออกจากตำแหน่ง


นอกจากนั้นมีกระแสข่าวออกมาว่า ประธานสโมสรกับผู้จัดการจะขอลาออกนั้น นายพิเชฐ มั่นคง กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอนเนื่องจากเหตุการณ์ในวันนั้นโค้ชและนักเตะของตน ไม่มีความผิด แถมยังเสี่ยงเข้าไปช่วยห้ามอีก ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมต้องลาออก

ขณะเดียวกันประธานสิงห์เจ้าท่า กล่าวต่อว่า เกมในวันที่ 24 ก.พ. ที่จะพบกับ ดานัง ที่สนามศุภชลาศัย นั้น หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกจะขอลาออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน เนื่องจากถือว่าผมไม่สามารถควบคุมได้ เพราะครั้งนี้ผมเป็นคนจัด ไม่เหมือนกับเกมถ้วย ก ที่ผมไม่ได้จัด ดังนั้นมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน


วอนอย่าซ้ำเติมอยู่วงการเดียวกัน


ประธานสโมสร "เจ้าท่า" กล่าวปิดท้ายว่า ที่ผ่านมา การท่าเรือฯ ตกเป็นจำเลยสังคม โดยที่ไม่มีโอกาสออกมาชี้แจงเลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะโค้ชของผมคือ สะสม พบประเสริฐ ที่ถูกมองว่ามีส่วนกับเหตุการณ์ ผมอยากบอกว่าเราคนวงการเดียวกัน เมื่อทำผิดแล้วยอมรับน่าจะจบไม่ควรจะซ้ำเติมกันอีก เพราะเราต้องเจอกันอยู่ตลอด


"โค้ชเตี้ย" ขอโทษพร้อมสำนึกผิด


ด้าน "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือของ การท่าเรือไทยฯ กล่าวว่า ก่อนอื่นเลยต้องขอโทษแฟนบอลทุกคน ที่มีภาพออกไปแล้วทำร้ายความรู้สึกของแฟนบอล ผมเป็นคนนึงที่อยากจะให้วงการฟุตบอลไทยพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น จึงอยากให้ทุกคนมาช่วยสร้างกระแสฟุตบอลไทยต่อไป เพราะไม่อยากให้ฟองสบู่แตกเหมือนในอดีต ส่วนโทษที่จะถูกลงโทษนั้น พร้อมยอมรับหากสมเหตุสมผล


ยันไม่ได้หาเรื่องโค้ชฝรั่ง


นอกจากนั้น สะสม พบประเสริฐ กล่าวอีกว่า "ภาพที่ออกไปว่าผมเหมือนหาเรื่องโค้ชเมืองทองฯ นั้น บอกได้เลยว่านิสัยส่วนตัวผมไม่ใช่เป็นคนที่จะมีปากเสียงกับใครหากไม่มีใครมา หาเรื่องก่อน การถูกฝรั่งด่านั้นเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ และโชคดีที่ผมฟังออก ฉะนั้นอยากบอกว่า ณ เวลานั้นทุกคนพยายามจะให้เรื่องยุติ แต่ตอนนั้นทุกอย่างมันพาไปเอง จึงอยากให้มองด้วยว่าการที่ประธานสโมสรและนักเตะช่วยกันลงไปห้ามนั้น ควรจะได้รับความดีความชอบบ้าง"

ทั้งนี้หลังจากที่กุนซือยอดวาทะได้แถลงเสร็จ เจ้าตัวขออนุญาตเพื่อไปให้สัมภาษณ์กับรายการ เจาะข่าวเด่น ทางไทยทีวีสีช่อง 3 กับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดังย่านพระราม 4 ทันที


พิเชฐ แถลงต่อถามหาความเป็นธรรม


จากนั้น พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร การท่าเรือฯ ได้แถลงข่าวต่อทันที โดยเปิดประเด็นที่ว่า ฝ่ายจัดกับเจ้าของเมืองทองฯ เป็นคนเดียวกัน เป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่

"ผมอยากทราบว่าสมาคมฟุตบอลฯ มอบหมายให้ใครจัดการแข่งขัน ฝ่ายอำนวยการจัดการแข่งขันกับเจ้าของเมืองทองฯ เป็นคนคนเดียวกัน เป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่ และเป็นธรรมมั้ย (ทุกคนในห้องประชุมเงียบ)"


ยืนยันความปลอดภัยแก่ทีมเยือน


นายพิเชฐ ได้เผยถึงทีมเยือนที่มีข่าวว่าจะไม่หาแฟนบอลมาเยือนนั้น กล่าวว่า เราพร้อมเป็นมิตรกับทุกทีม ซึ่งป้ายข้อความที่ว่า "แพท สเตเดี้ยม นรกสำหรับทีมเยือน" นั้น ผมได้สั่งรื้อออกหมดแล้ว โดยข่าวที่ออกมาว่าทุกทีมจะไม่มีเยือนสนามของเรานั้น ผมบอกได้เลยว่ามาเถอะครับ เรารับประกันความปลอดภัย สโมสการท่าเรือไทยฯ ไม่ใช่โจร ทุกสโมสรมาได้ และขอยืนยันว่าปลอดภัยจากเดิมร้อยเท่า

ประธานสโมสรท่าเรือฯ กล่าวอีกว่า ประเทศที่พัฒนาเรื่องฟุตบอลแล้ว เขายังมีตีกันอยู่ ผมมองว่าเป็นสีสันของฟุตบอล และหลังจากนี้ผมจะลงมาดูแลแฟนบอลด้วยตนเอง หากผมไม่สามารถควบคุมได้ก็ขอลุกจากเก้าอี้ประธานสโมสรทันที


ปิดท้ายยืนยันความเป็นลูกผู้ชาย


ขณะเดียวกัน พิเชฐ ประธานสโมสร การท่าเรือไทยฯ กล่าวปิดท้ายว่า อยากฝากบอกทุกคนว่าผมมีความเป็นลูกผู้ชายพอ ผิดคือผิด แพ้คือแพ้ และอยากให้ทุกคนรู้ด้วยว่าต้องรู้จักหน้าที่ของตนเอง โปรดอย่าซ้ำเติมกัน เราคนวงการเดียวกันควรจะช่วยกันพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป


เจษฎาภรณ์ แจงสนามผ่านก่อนมีเซอร์ไพรส์


ส่วน เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง รองประธานสโมสรการท่าเรือไทยฯ เผยถึงการตรวจสนามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ทุกอย่างโอเคหมดและไม่มีปัญหา ทว่าเจ้าของกรมพลฯ ได้ขอความยืนยันจากสโมสรว่าจะไม่มีเรื่องเกิดขึ้นอีก เราได้ทำหนังสือเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้รองประธานสโมสร "สิงห์เจ้าท่า" ยังไม่ทันแถลงเสร็จ ปรากฏว่า พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรได้แย่งไมค์ไปพูด โดยเผยว่ามีข่าวล่ามาแรงจากสมาคมฟุตบอลฯ ว่าแบนไม่ให้กองเชียร์ท่าเรือฯ เข้าสนาม ทำให้ พิเชฐ ประกาศทันทีว่า

"อย่างที่เรียนไปช่วงแรกว่าการพิจารณาโทษ หากยุติธรรมผมยอมรับ แต่อยากทราบว่าสมาคมฟุตบอลฯ มีกึ๋นแค่นี้หรือ? แถมยังบอกด้วยว่าให้แฟน ดานัง เข้าสนามได้ แต่แฟนบอลท่าเรือฯ เข้าไม่ได้ ผมขอยืนยันเลยว่า จะยื่นหนังสืออุทธรณ์อย่างแน่นอน ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่ยอมรับบทลงโทษ แต่อยากให้วิเคราะห์ทุกแง่ทุกมุม


ป้อง "พงษ์พิพัฒน์" ไม่ได้เป็นชนวน


ขณะเดียวกัน ประธานสโมสรติดหนวด ได้เผยถึงกรณีที่ "เจ้าเอ็ม" พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ แบ็กซ้ายตัวเก่ง ที่ได้ออกท่าทางปลุกเร้าแฟนบอล ด้วยการยกมือกระตุ้น โดยหลายฝ่ายมองว่าแบ็กซ้ายรายนี้ ควรจะยกมือห้ามมากกว่าปลุกเร้า จึงเป็นเหตุที่ทำให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น โดย พิเชฐ ได้แก้ต่างแทนว่า พงษ์พิพัฒน์ ไม่ใช่คนนิสัยเช่นนี้ จึงอยากวอนให้ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมด้วย

"ผมว่าเป็นการกล่าวหากันมากกว่า สไตล์ของ เอ็ม คือชอบกระตุ้นแฟนบอล ไม่ได้มีการยั่วยุแต่อย่างใด ดังนั้นผมขอพูดแทนเอ็มว่านิสัยส่วนตัวแล้วเขาอาจจะดุดันเวลาแข่งขันแต่นอก สนามเขาเป็นคนขี้อาย งานนี้ผมขอปกป้องเอ็มเพราะเขาเป็นพนักงานของการท่าเรือ และพนักงานการท่าเรือทุกคนวินัยดี และเขาเป็นเด็กดีคนนึง และขอยืนยันว่าเขาไม่ใช่คนอย่างนั้นแน่นอน ส่วนคนที่พูดกล่าวหาเอ็มนั้น อยากให้มาถามผมนี่ ไม่ใช่จะพูดอย่างเดียว"


ปิดแถลงออกพบแฟนบอล


หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จสิ้น พิเชฐ มั่นคง ได้ออกไปพบกับแฟนบอล การท่าเรือฯ ที่เดินทางมาให้กำลังใจ ทันทีที่ออกมาปรากฏว่าพบกับ โจลี่ ผู้ควบคุมการแข่งขัน เอเอฟซี คัพ ชาวกวม โดย พิเชฐ ได้สอบถามว่าได้มีการห้ามแฟนบอลตนเองเข้าสนามหรือไม่ ซึ่ง โจลี่ เผยว่า "เปล่า" ก่อนที่ พิเชฐ จะเดินออกมายืนที่สนาม ท่ามกลางเสียงเฮและปรบมือต้อนรับของแฟนบอลร่วม 200 คน


ประกาศหา 10 คน ก่อนยกมือรับผิด


ทันทีที่ พิเชฐ มั่นคง เดินออกมานั้น ได้พูดออกไมค์ว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯ ได้แบนห้ามแฟนบอลเข้าสนามในเกมวันพุธ แต่ผมจะยื่นอุทธรณ์ และอยากให้แฟนบอล 10 คน ที่ผมเรียกมา ให้มาพูดคุยในวันพรุ่งนี้

โดยยังไม่ทันพูดจบดี ปรากฏว่า มีแฟนบอลรายนึงตะโกนขึ้นมาว่า "วันนี้ได้มั้ยครับ" ซึ่งเรียกเสียงเฮจากแฟนบอลในสนามเป็นอย่างมาก ก่อนที่ทั้ง 5 ราย ได้เดินทางมา แล้วก้มลงกราบที่เท้าของ พิเชฐ มั่นคง ทันที


พิเชฐ คุยให้โอกาสแต่ต้องมอบตัว


อย่างไรก็ตาม ประธานสโมสร การท่าเรือฯ ได้พูดกับแฟนบอลทั้ง 5 ราย ที่ยอมรับผิดว่า ผมให้โอกาสพวกคุณ แต่ทุกคนต้องช่วยผมคือจะต้องไม่ทำอย่างนี้อีก ส่วนเรื่องที่แล้วให้แล้วไป โดยวันพรุ่งนี้ขอให้ทุกคนไปมอบตัว และถ้าติดคุก ผมจะประกันตัวให้เอง

ทันทีที่พูดจบ แฟนบอล "สิงห์เจ้าท่า" ที่เข้ามาในสนาม ต่างส่งเสียงเฮ และปรบมือออกมาอย่างกึกก้องทีเดียว


แฟนบอลแจงสื่อโยนขี้ให้


ขณะที่ จิรพงศ์ พะนวล หนึ่งในแฟนบอล ท่าเรือฯ ที่ยอมรับผิดกับเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงถูกมองว่าเป็นตัวการ เนื่องจากแฟนบอล เมืองทองฯ ทำร้ายพวกผมเช่นกัน แถมเป็นคนเริ่มก่อนด้วย แต่สื่อที่ออกไปคือให้พวกผมเป็นคนผิด จึงอยากให้ช่วยเสนอข่าวเท่าเทียมกันด้วย


พิเชฐ กล่าวปิดยื่นอุทธรณ์แน่


นอกจากนั้น พิเชฐ ประธานสโมสร การท่าเรือไทยฯ กล่าวปิดท้ายกับแฟนบอลว่า เรื่องที่ห้ามไม่ให้แฟนบอลเข้าสนามในวันพุธกับ ดานัง นั้น ผมจะยื่นหนังสืออุทธรณ์อย่างแน่นอน แต่หากอุทธรณ์ไม่ผ่านพร้อมยอมรับ แต่เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะเรื่องนี้คุยกันได้ แถมผู้ควบคุมการแข่งขันยืนยันด้วยว่าไม่ได้ห้าม ผมว่าน่าจะต่อรองกันได้


เผยแฟนบอลท่าเรือยังโดนกันเอง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สน.ปทุมวัน ร.ต.ท.พิเชษฐ์ พรมแก้ว ร้อยเวรเจ้าของคดีกล่าวถึงความคืบหน้าของคดีความว่า มีการเข้าแจ้งความทั้งสิ้น 9 ราย ในจำนวนนี้ เป็นแฟนบอลเมืองทอง 8 รายและแฟนบอลการท่าเรือไทย 1 ราย แต่แฟนบอลท่าเรือรายนี้ ยื่นแจ้งให้เอาผิดแฟนบอลท่าเรือ เพราะเขาโดนทำร้ายมาจากแฟนบอลท่าเรือด้วยกันเอง เนื่องจากไม่ใส่ชุดท่าเรือเข้าไปชม จึงเกิดความเข้าใจผิด โดยวันนี้ได้รับภาพจากสื่อมาแล้ว รอเพียงการสืบสวนเท่านั้น ทั้งนี้คดีจะแยกเป็นกรณีไป อยู่ที่โดนทำร้ายร่างกายเจ็บมากหรือเจ็บน้อย ก็จะต้องพิจารณาโทษไม่เหมือนกัน


หลายสโมสรเพิ่มมาตรการ รปภ.


จากภาพข่าวความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการก่อเหตุของแฟนบอล จึงทำให้เกิดความหวั่นใจว่าจะมีเรื่องมีราวเกิดขึ้นในสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ได้อีก ตรงนี้หลายสโมสรมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นมารองรับ "บิ๊กน้อย" อนุชา กระเดื่องเดช ผจก.ทีมทีทีเอ็ม พิจิตร เผยว่าสนาม อบจ.พิจิตร รังเหย้าของเรามีการประชุมกันตลอด และสภาพสนามสามารถที่จะป้องกันปัญหาได้อยู่แล้ว ส่วนที่จะต้องทำคือการเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น เพื่อให้ดูแลได้ทั่วถึง

ส่วน "เสี่ยณพ" อรรณพ สิงห์โตทอง ผจก.ทีมชลบุรี กล่าวว่าเห็นใจทุกฝ่าย แต่ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ควรจะเรียกทุกสโมสรหารือประชุมถึงมาตรการการป้องกันที่จะเกิดขึ้นให้เป็นแนว ทางเดียวกัน และต้องชัดเจนว่า แต่ละทีมต้องทำอะไรบ้าง และถ้าเกิดเรื่องต้องมีบทลงโทษให้หนัก ส่วนสนามที่ชลบุรี เรามีมาตรการป้องกันอย่างเข้มแข็งอยู่แล้ว

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์

สวัสดีปีใหม่ไทย เทศกาลสงสงกรานต์ หลายทีมในลีกอาชีพใด้พักซ้อม 2-3 วัน แต่มีทีมเดียวคือ จุฬา ยูไนเต็ด ซ้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กุนซือใหญ่ชาวแซมบ้า โจเซ่ แฟร์ไรร่า สุดเฮี้ยบ สั่งนักเตะซ้อมตะลุยช่วงสงกรานต์เต็มที่แบบไม่มีหยุดสงกรานต์ อีกทีมที่หยุดวันเดียวคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด หวั่นนักเตะกลับมาหมดสภาพ สั่งให้พักแค่ 13 เม.ย. วันเดียว นักเตะอาชีพเป็นงานที่แปลกกว่าอาชีพอื่นมากเลยครับ เทศกาลสงกรานต์นี้ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ rich_t

ทีโอทีขึ้นป้ายขายกบไซเบอร์อย่างต่ำ1ล้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลในศึก ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ช่วงพักเบรกให้ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ 2 นัด โดย ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 ของตาราง จากการออกสตาร์ต 3 นัดแรก ได้ตั้งราคาขายนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมดีกรีทีมชาติไทย "กบ ไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีม ที่ถือเป็นนักเตะแม่เหล็กประจำทีมอย่างแท้จริง ที่ราคาถึง 1 ล้านกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมทีโอที กล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าเราคิดจะขาย สุเชาว์ นุชนุ่ม เพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เป็นกำลังหลักสำคัญของเราในขณะนี้ แต่หากมีทีมไหนต้องการอยากได้ตัวเขาไปเล่นให้จริงๆ ในฟุตบอลอาชีพ โดยเราตั้งราคาขายไว้ที่หลัก 1 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเล่นกับเรามานาน เรื่องฝีเท้าการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีดีกรีติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง" "หากถามผมว่า อยากจะขายให้ทีมในประเทศหรือไม่ คงไม่อยากขาย แต่ต้องการให้เขามีโอกาสได้ไปเล่นกับลีกต่างชาติมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสลีกของสิงคโปร์หรือวีลีกของเวียดนาม เพื่อมีโอกาสได้ไปเก็บเงินสักก้

ชัยนาทเปิดตัวชุดแหวกแนวทุ่มงบ200ล้านเปลี่ยนชื่อหวังติดท็อปไฟ

ชัยนาท ฮอร์นบิล ในชื่อใหม่เปิดตัวชุดแข่งขัน 2014 สุดฉีกแนวพร้อมประกาศงบ 200 ล้านบาทเทียบเท่าบิ๊กทีมหวังผฝาดท็อปไฟว์ของตาราง สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล หรือ ชัยนาท เอฟซี เดิม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมฤดูกาล 2014สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (15 ก.พ.) โดยมี อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสรเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ชัยนาท ตัดสินใจนำคำว่า ฮอร์นบิล (hornbill) ซึ่งแปลว่านกเงือกสัญลักษณ์ประจำสโมสรและจังหวัดมาต่อท้ายชื่อ พร้อมกับประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 200 ล้านบาท เทียบเท่ากับสโมสรชั้นนำ โดย "เสี่ยแฮงค์" ประธานสโมสรหวังพาทีมจบ 5 อันดับแรกของตารางไทยพรีเมียร์ลีก "ทีมชัยนาทในปีนี้ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงทีม ไม่ว่าจะเป็นการส่วนซื้อตัวผู้เล่นผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม เพื่อให้สโมสรมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเป้าหมายอย่างต่ำต้องติดท็อปเท็นของตาราง แต่จะให้ดีต้องติด 1 ใน 5 ถ้าทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ" สุรชัย จตุรภั