ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โตโยต้า ทุ่มทุน จัดศึกลูกหนัง "โตโยต้า ลีกคัพ 2010"


โตโยต้า ทุ่มทุน จัดศึกลูกหนัง "โตโยต้า ลีกคัพ 2010" ทัวร์นาเมนต์ที่ห่างหายไปจากเมืองไทย 10 กว่าปี ทีมแชมป์รับเงิน 5 ล้านบาท แถมทีมจาก ดิวิชั่น 2 อาจได้หวดกับทีมในลีกสูงสุดด้วย หากผ่านเข้าสู่รอบแรก โดยจะเล่นเพลย์ออฟกันก่อน เพื่อหา 32 ทีมสุดท้าย ไปเตะกับทีมไทยลีก และ ดิวิชั่น 1 ในระบบเหย้า - เยือน เริ่มคิกออฟสิ้นเดือน ก.ค. นี้

หลังจากที่ห่างหายไปนานนับ 10 กว่าปี ในที่สุดการแข่งขันฟุตบอลลีกคัพ ได้กลับมาหวดแข้งกันอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ "โตโยต้า ลีกคัพ 2010" ที่จะเริ่มแข่งขันในเดือน ก.ค. นี้ ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ก.ค. 2553 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมคอนราด

ได้มีการแถลงข่าวการจัดการแข่งขันฟุตบอล "โตโยต้า ลีกคัพ 2010" มี "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทย พรีเมียร์ลีกและอุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด ร่วมกันแถลง

นอกจากนั้นภายในงานยังมีนักเตะที่เคยสร้างชื่อในการแข่งขัน "โตโยต้า คัพ" ครั้งก่อนอย่าง "เดอะ ตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน มาร่วมด้วย เช่นเดียวกับนักเตะรุ่นใหม่ๆ อย่าง "เจ้าตอง" กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารมือ 1 ของ เมืองทองฯ, "เจ้าเอ็ม" อนาวิน จูจีน ปีกตัวจี๊ดของ บางกอกกล๊าส, "เจ้าบาส" อาทิตย์ สุนทรพิธ เจ้าพ่อลูกนิ่งจากชลบุรีฯ

ขณะเดียวกัน "น้าแอ๊ด" แอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล นักร้องเพลงเพื่อชีวิตขวัญใจคนไทยยังได้มาร้องเพลง "โตโยต้า ลีกคัพ" ซึ่งจะเป็นเพลงที่ใช้สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย เช่นเดียวกับ วิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด, ทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผอ.กองการแข่งขันกีฬาอาชีพ ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมในงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน "โตโยต้า ลีกคัพ 2010" ครั้งนี้

"บิ๊กหนุ่ม" ได้เผยถึงการแข่งขัน "โตโยต้า ลีกคัพ 2010" ในครั้งนี้ว่า "นับเป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากลีกฟุตบอลจะสมบูรณ์แบบได้จะต้องมีลีกสูงสุด, เอฟเอ คัพ และลีกคัพ ตอนนี้เรามีแล้วทั้งไทยลีก และ มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ขณะที่ "โตโยต้า ลีกคัพ" ก็กำลังจะเกิดขึ้น

ดังนั้นถือว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สากลขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นรายการนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมเล็กๆ ทุกดิวิชั่น ได้มีโอกาสเจอกับทีมใหญ่ๆ ในระดับลีกสูงสุดอีกด้วย ทุกครั้งที่ทีมใหญ่ๆ ออกไปเยือนทีมเล็กๆ ก็จะทำให้เป็นการปลุกกระแสแฟนบอลภายในท้องถิ่นเหล่านั้นด้วย"

ขณะที่ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทย พรีเมียร์ลีกและอุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เผยว่า "เป็นทัวร์นาเมนต์ประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทย เนื่องจากจะเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ลีกฟุตบอลของเมืองไทยเป็นลีกที่สมบูรณ์ แบบ และยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าชาติอื่นๆ ซึ่งผมหวังว่าการแข่งขัน "โตโยต้า ลีกคัพ 2010" จะเป็นที่นิยมของแฟนบอลได้มาก เป็นอันดับ 1 เหมือนยอดขายของรถที่ โตโยต้า ครองความเป็น 1 มาตลอด"

ส่วน มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า "โตโยต้า มีนโยบายสนับสนุนกีฬาทั่วประเทศอยู่แล้ว ซึ่งฟุตบอลถือเป็นกีฬายอดฮิตอันดับ 1 ของประเทศไทย ทำให้มีความต้องการที่จะนำการแข่งขัน "โตโยต้า ลีกคัพ" กลับมาแข่งขันอีกครั้ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนารากฐานของกีฬาฟุตบอลไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

โดยจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับอาชีพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากทีมฟุตบอลที่เข้าร่วมแข่งขันคือระดับไทยลีก, ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 รวม 106 ทีม และเป็นเวทีสร้างสรรค์ดาวรุ่งดวงใหม่เข้าสู่วงการฟุตบอลด้วย"

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ ยังได้กล่าวต่ออีกว่า "ในส่วนของรางวัลในการแข่งขันครั้งนี้ มีเงินรางวัลรวม 10 ล้านบาท นอกจากนั้นนักเตะยอดเยี่อมของการแข่งขันยังได้รถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด ส่วนทีมมารยาทยอดเยี่ยมจะได้รถยนต์ ไฮลักษ์ วีโก้ เพื่อใช้ในการเดินทางอีกด้วย

ขณะเดียวกันแชมป์ "โตโยต้า ลีกคัพ 2010" ยังได้สิทธิ์เป็นตัวแทนลีกอาชีพของประเทศไทย ไปทำการแข่งขันกับทีมฟุตบอลชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ในรายการ "โตโยต้า พรีเมียร์คัพ" ที่จะะทำการแข่งขันในเดือน ม.ค.2554 นี้ด้วย"

ด้าน พงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงระเบียบจัดการแข่งขันในรายการนี้ว่า "สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ ทีมที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันนั้น ถือเป็นทีมลีกอาชีพของเมืองไทยทั้งสิ้น โดยเป็นทีมจากไทยลีก, ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 รวม 106 ทีม

โดยทีมจาก ดิวิชั่น 2 จะทำการเพลย์ออฟให้เหลือ 32 ทีม ก่อนที่จะมาจับสลากเพื่อเจอกับทีมจาก ไทยลีก และ ดิวิชั่น 1 ในรอบแรก โดยที่ทีมจาก ดิวิชั่น 2 จะได้สิทธิ์เป็นเจ้าบ้านก่อนเพื่อเป็นการปลุกกระแสแฟนบอลของตัวเองตัวเอง จะเตะแบบเหย้า-เยือน และนำผลสกอร์ของทั้งสองนัดมารวมกัน ทีมใดชนะก็จะฝ่ายเข้าสู่รอบต่อไป โดยที่มีการนับกฎประตูทีมเยือนด้วย"

นอกจากนั้น พงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ยังได้เผยต่อด้วยว่า "ในส่วนรอบเพลย์ออฟของทีมจาก ดิวิชั่น 2 ทีมที่เป็นทีมเยือนจะได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 30,000 บาท ขณะที่รอบแรกถึงรอบรองฯ ทีมเยือนจะได้ค่าตอบแทนทีมละ 50,000 บาท ส่วนค่าบัตรผ่านประตูทีมที่เป็นเจ้าบ้านจะได้ทั้งหมด โดยจะเริ่มเตะเพลย์ออฟระหว่างวันที่ 26-31 ก.ค. นี้"

สำหรับระเบียบการแข่งขัน "โตโยต้า คัพ 2010" ในครั้งนี้ จะเอาทีมจาก ดิวิชั่น 2 มาเตะเพลย์ออฟเพื่อให้ได้ 32 ทีมสุดท้าย เพื่อเล่นในรอบแรก โดยมีทีมจากไทยลีก และ ดิวิชั่น 1 รวม 32 ทีม รออยู่แล้ว ก่อนจะจับสลากเพื่อทำการแข่งขันในระบบเหย้า-เยือน โดยทีมจาก ดิวิชั่น 2 จะได้สิทธิ์เล่นในบ้านก่อน ซึ่งทุกครั้งที่ทีมเยือนออกเดินทางจะได้รับค่าตอบแทนทีมละ 50,000 บาท

ทั้งนี้จะนำเอาผลการแข่งขันทั้งสองนัดมารวมกัน ทีมใดที่ชนะจะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป แต่หากเสมอกันจะดูที่กฎประตูทีมเยือน กล่าวคือทีมใดเล่นนอกบ้านและยิงประตูได้มากกว่าจะเป็นฝ่ายเข้ารอบไป แต่หากทั้งสองทีมยิงเท่ากันในการออกไปเป็นทีมเยือน จะมีการต่อเวลาออกไปครึ่งละ15 นาที หากยังเสอมกันอีกจะตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษ

ขณะที่รางวัลสำหรับทีมแชมป์จะได้รับถ้วยเกียรติยศพร้อมเงินรางวัล 5 ล้านบาท, ทีมรองชนะเลิศได้รับเงิน 1 ล้านบาท, ทีมมารยาทยอดเยี่ยมได้รับรถกระบะจาก โตโยต้า ไฮลักษ์ วีโก้ ดับเบิล แคป 2.5 อี พรี-รันเนอร์ จำนวน 1 คัน มูลค่า 761,000 บาท และผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ จะได้รับรถยนต์ โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด 2.4 วี + ดีวีดี เนวิเกเตอร์ จำนวน 1 คัน มูลค่า 1,809,000 บาท


การแข่งขันในรอบเพลย์ออฟจะเริ่มเตะระหว่างวันที่ 26 - 31 ก.ค. 2553 ส่วนรอบชิงชนะเลิศจะเตะวันที่ 27 หรือ 28 พ.ย.2553 นี้ โดยทีมแชมป์ "โตโยต้า ลีกคัพ 2010" จะได้สิทธิ์เตะ "โตโยต้า พรีเมียร์คัพ" ที่ประเทศไทย พบกับทีมแชมป์จากประเทศญี่ปุ่น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์

สวัสดีปีใหม่ไทย เทศกาลสงสงกรานต์ หลายทีมในลีกอาชีพใด้พักซ้อม 2-3 วัน แต่มีทีมเดียวคือ จุฬา ยูไนเต็ด ซ้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กุนซือใหญ่ชาวแซมบ้า โจเซ่ แฟร์ไรร่า สุดเฮี้ยบ สั่งนักเตะซ้อมตะลุยช่วงสงกรานต์เต็มที่แบบไม่มีหยุดสงกรานต์ อีกทีมที่หยุดวันเดียวคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด หวั่นนักเตะกลับมาหมดสภาพ สั่งให้พักแค่ 13 เม.ย. วันเดียว นักเตะอาชีพเป็นงานที่แปลกกว่าอาชีพอื่นมากเลยครับ เทศกาลสงกรานต์นี้ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ rich_t

ทีโอทีขึ้นป้ายขายกบไซเบอร์อย่างต่ำ1ล้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลในศึก ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ช่วงพักเบรกให้ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ 2 นัด โดย ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 ของตาราง จากการออกสตาร์ต 3 นัดแรก ได้ตั้งราคาขายนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมดีกรีทีมชาติไทย "กบ ไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีม ที่ถือเป็นนักเตะแม่เหล็กประจำทีมอย่างแท้จริง ที่ราคาถึง 1 ล้านกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมทีโอที กล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าเราคิดจะขาย สุเชาว์ นุชนุ่ม เพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เป็นกำลังหลักสำคัญของเราในขณะนี้ แต่หากมีทีมไหนต้องการอยากได้ตัวเขาไปเล่นให้จริงๆ ในฟุตบอลอาชีพ โดยเราตั้งราคาขายไว้ที่หลัก 1 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเล่นกับเรามานาน เรื่องฝีเท้าการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีดีกรีติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง" "หากถามผมว่า อยากจะขายให้ทีมในประเทศหรือไม่ คงไม่อยากขาย แต่ต้องการให้เขามีโอกาสได้ไปเล่นกับลีกต่างชาติมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสลีกของสิงคโปร์หรือวีลีกของเวียดนาม เพื่อมีโอกาสได้ไปเก็บเงินสักก้

ชัยนาทเปิดตัวชุดแหวกแนวทุ่มงบ200ล้านเปลี่ยนชื่อหวังติดท็อปไฟ

ชัยนาท ฮอร์นบิล ในชื่อใหม่เปิดตัวชุดแข่งขัน 2014 สุดฉีกแนวพร้อมประกาศงบ 200 ล้านบาทเทียบเท่าบิ๊กทีมหวังผฝาดท็อปไฟว์ของตาราง สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล หรือ ชัยนาท เอฟซี เดิม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมฤดูกาล 2014สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (15 ก.พ.) โดยมี อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสรเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ชัยนาท ตัดสินใจนำคำว่า ฮอร์นบิล (hornbill) ซึ่งแปลว่านกเงือกสัญลักษณ์ประจำสโมสรและจังหวัดมาต่อท้ายชื่อ พร้อมกับประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 200 ล้านบาท เทียบเท่ากับสโมสรชั้นนำ โดย "เสี่ยแฮงค์" ประธานสโมสรหวังพาทีมจบ 5 อันดับแรกของตารางไทยพรีเมียร์ลีก "ทีมชัยนาทในปีนี้ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงทีม ไม่ว่าจะเป็นการส่วนซื้อตัวผู้เล่นผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม เพื่อให้สโมสรมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเป้าหมายอย่างต่ำต้องติดท็อปเท็นของตาราง แต่จะให้ดีต้องติด 1 ใน 5 ถ้าทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ" สุรชัย จตุรภั