ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้ประชุมผู้ควบคุมการแข่งขัน ในศึกฟุตบอล "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก" และดิวิชั่น 1 ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้สรุปถึงปัญหาของฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งมีปัญหาแค่ที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม เป็นเกมที่ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดเสมอกับ "ตรากงจักรพิฆาต" ทหารบก 3-3 โดยระหว่างเกมการแข่งขันดังกล่าวได้มีแฟนบอลของเจ้าบ้านได้วิ่งลงไปในสนาม อีกทั้งมีการปาน้ำแข็งด้วย ในที่ประชุมจึงมีมติให้ปรับเงินสโมสร เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ข้อหาละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท
สงขลาส่อโดนปรับนักเตะด่าผู้ตัดสิน
ส่วนเกมดิวิชั่น 1 ระหว่างทีม "ไดโนเสาร์พิฆาต" ขอนแก่น เอฟซี เปิดบ้านที่สนามกีฬากลาง จ.ขอนแก่น รับการมาเยือนของ "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี โดยในเกมนั้นเป็นทางฟากทีมเจ้าบ้านที่เอาชนะไป 2-1
ขณะเดียวกัน นักเตะทีมเยือนได้ใช้วาจาไม่สุภาพด่าผู้ตัดสิน แต่ทางบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ยังไม่ปรับเงิน เนื่องจากยังไม่ได้รับรายงานว่าเป็นนักเตะคนใด โดยจะมีการสอบสวนเรื่องนี้เพื่อพิจารณา ภายหลังถ้ามีความผิดจริงจะมีการปรับเงินตามระเบียบ
เอเอฟซี ชี้ "ยุ่น" ผ่านประเมินชาติเดียว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องที่ทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ "เอเอฟซี" ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสนามแข่งขันของสโมสร ในศึก "ไทยพรีเมียร์ลีก" ที่ผ่านมา
โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง นายใหญ่ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เผยว่า การประเมินของเอเอฟซี เป็นไปในแนวโน้มที่ดีขึ้น เรียกได้ว่า 3 ปี ที่เรามีการบริหารงานในรูปแบบบริษัทจำกัด อย่างเป็นรูปธรรม ทาง "เอเอฟซี" เขาชมว่าดีขึ้นผิดหูผิดตา กว่าสมัยก่อนมาก แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่มีข้อบกพร่องให้ต้องปรับปรุงแก้ไขกันต่อไป เช่นเดียวกับทุกชาติในเอเชีย ยกเว้น เจ ลีก ของญี่ปุ่น ถูกประเมินว่าผ่านเกณฑ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงชาติเดียวเท่านั้น
โค้งสุดท้ายไทยลีกจี้แมตช์คอมฯคุมเข้ม
นอกจากนั้น ดร.วิชิต ยังกล่าวถึงช่วงโค้งสุดท้ายในศึก "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก" ที่เหลือการแข่งขันเพียงแค่ 2-3 นัดเท่านั้น โดยทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว น่าจะได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ ในเรื่องของการล้มบอลว่า
"แน่นอนว่าโค้งสุดท้ายไทยลีก ทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว น่าจะถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะอาจจะเอื้อผลประโยชน์ ให้กับทีมที่ได้ลุ้นแชมป์ และทีมในโซนหนีตกชั้น ดังนั้นตนได้กำชับให้แมตช์คอมมิชชั่นเนอร์ ได้ดูพฤติกรรมของนักเตะเป็นพิเศษ เพราะอาจจะมีการล้มบอล ซึ่งเป็นมะเร็งร้ายบ่อนทำลายวงการฟุตบอลลีกบ้านเราให้ตกต่ำลง
เชือดสโมสรไก่กาปีหน้าห้ามแข่ง
ขณะเดียวกัน ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ยังยืนยันถึงศึกลูกหนังลีกสูงสุดของไทย ในฤดูกาลหน้า โดยผู้ควบคุมการแข่งขัน ต้องเข้มงวดกับกฎระเบียบของ "เอเอฟซี" เพื่อนำเอามาเป็นบรรทัดฐาน ให้กับทุกทีมได้ปฏิบัติตามกันอย่างเคร่งครัด ในเรื่องของสนามแข่งขัน ถ้าหากตรวจเจอว่าไม่พร้อมจะไม่ให้ใช้เป็นสนามเหย้าอีกต่อไป
"ทางเอเอฟซี เขากำชับมากในเรื่องของสนามแข่งขัน ทุกสโมสรต้องมีความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักนักกีฬา, ผู้ตัดสิน, บล็อกผู้สื่อข่าว, ห้องแถลงข่าว ถ้ายังไม่มีความพร้อมสักเรื่อง เราอาจจะพิจารณาไม่ให้ใช้เป็นสนามเหย้าอีกต่อไป เพราะเราได้แจ้งไปแล้วพร้อมกันนั้น "เอเอฟซี" เขาได้เดินทางมาประเมินในปีนี้แล้วด้วย"
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้สรุปถึงปัญหาของฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งมีปัญหาแค่ที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม เป็นเกมที่ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดเสมอกับ "ตรากงจักรพิฆาต" ทหารบก 3-3 โดยระหว่างเกมการแข่งขันดังกล่าวได้มีแฟนบอลของเจ้าบ้านได้วิ่งลงไปในสนาม อีกทั้งมีการปาน้ำแข็งด้วย ในที่ประชุมจึงมีมติให้ปรับเงินสโมสร เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ข้อหาละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท
สงขลาส่อโดนปรับนักเตะด่าผู้ตัดสิน
ส่วนเกมดิวิชั่น 1 ระหว่างทีม "ไดโนเสาร์พิฆาต" ขอนแก่น เอฟซี เปิดบ้านที่สนามกีฬากลาง จ.ขอนแก่น รับการมาเยือนของ "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี โดยในเกมนั้นเป็นทางฟากทีมเจ้าบ้านที่เอาชนะไป 2-1
ขณะเดียวกัน นักเตะทีมเยือนได้ใช้วาจาไม่สุภาพด่าผู้ตัดสิน แต่ทางบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ยังไม่ปรับเงิน เนื่องจากยังไม่ได้รับรายงานว่าเป็นนักเตะคนใด โดยจะมีการสอบสวนเรื่องนี้เพื่อพิจารณา ภายหลังถ้ามีความผิดจริงจะมีการปรับเงินตามระเบียบ
เอเอฟซี ชี้ "ยุ่น" ผ่านประเมินชาติเดียว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องที่ทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ "เอเอฟซี" ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสนามแข่งขันของสโมสร ในศึก "ไทยพรีเมียร์ลีก" ที่ผ่านมา
โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง นายใหญ่ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เผยว่า การประเมินของเอเอฟซี เป็นไปในแนวโน้มที่ดีขึ้น เรียกได้ว่า 3 ปี ที่เรามีการบริหารงานในรูปแบบบริษัทจำกัด อย่างเป็นรูปธรรม ทาง "เอเอฟซี" เขาชมว่าดีขึ้นผิดหูผิดตา กว่าสมัยก่อนมาก แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่มีข้อบกพร่องให้ต้องปรับปรุงแก้ไขกันต่อไป เช่นเดียวกับทุกชาติในเอเชีย ยกเว้น เจ ลีก ของญี่ปุ่น ถูกประเมินว่าผ่านเกณฑ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงชาติเดียวเท่านั้น
โค้งสุดท้ายไทยลีกจี้แมตช์คอมฯคุมเข้ม
นอกจากนั้น ดร.วิชิต ยังกล่าวถึงช่วงโค้งสุดท้ายในศึก "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก" ที่เหลือการแข่งขันเพียงแค่ 2-3 นัดเท่านั้น โดยทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว น่าจะได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ ในเรื่องของการล้มบอลว่า
"แน่นอนว่าโค้งสุดท้ายไทยลีก ทีมที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว น่าจะถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะอาจจะเอื้อผลประโยชน์ ให้กับทีมที่ได้ลุ้นแชมป์ และทีมในโซนหนีตกชั้น ดังนั้นตนได้กำชับให้แมตช์คอมมิชชั่นเนอร์ ได้ดูพฤติกรรมของนักเตะเป็นพิเศษ เพราะอาจจะมีการล้มบอล ซึ่งเป็นมะเร็งร้ายบ่อนทำลายวงการฟุตบอลลีกบ้านเราให้ตกต่ำลง
เชือดสโมสรไก่กาปีหน้าห้ามแข่ง
ขณะเดียวกัน ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ยังยืนยันถึงศึกลูกหนังลีกสูงสุดของไทย ในฤดูกาลหน้า โดยผู้ควบคุมการแข่งขัน ต้องเข้มงวดกับกฎระเบียบของ "เอเอฟซี" เพื่อนำเอามาเป็นบรรทัดฐาน ให้กับทุกทีมได้ปฏิบัติตามกันอย่างเคร่งครัด ในเรื่องของสนามแข่งขัน ถ้าหากตรวจเจอว่าไม่พร้อมจะไม่ให้ใช้เป็นสนามเหย้าอีกต่อไป
"ทางเอเอฟซี เขากำชับมากในเรื่องของสนามแข่งขัน ทุกสโมสรต้องมีความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักนักกีฬา, ผู้ตัดสิน, บล็อกผู้สื่อข่าว, ห้องแถลงข่าว ถ้ายังไม่มีความพร้อมสักเรื่อง เราอาจจะพิจารณาไม่ให้ใช้เป็นสนามเหย้าอีกต่อไป เพราะเราได้แจ้งไปแล้วพร้อมกันนั้น "เอเอฟซี" เขาได้เดินทางมาประเมินในปีนี้แล้วด้วย"