"ม้านิลมังกร" ราชนาวีระยอง แพแตกหลังผู้บริหารซึ่งเป็นข้าราชการกองทัพเรือในฐานะเจ้าของทีมราชนาวี สโมสรประกาศยกเลิกที่จะร่วมมือกันบริหารทีมกับ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด หลังตกลงเรื่องการบริหารทีมกันไม่ได้
นาวีฯวงแตกทร.เลิกคบบ.ระยองฯ
ส่อเค้าวงแตกซะแล้วสำหรับทีม "ม้านิลมังกร" ราชนาวีระยอง ที่ฤดูกาลนี้ทำผลงานได้ดีแทบทุกรายการที่ลงแข่งขันไม่ว่าจะเป็นไทยพรีเมียร์ ลีกที่รอดตกชั้นหรือกระทั่งฟุตบอลถ้วยอย่าง มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ก็ผ่านเข้าถึงรอบรองฯ ก่อนจะแพ้ให้เมืองทองฯไปเช่นเดียวกันรายการอย่างโตโยต้าลีกคัพ ก็สร้างผลงานได้ดีถึงขนาดเข้ารอบรองฯได้สำเร็จอีกรายการแต่ล่าสุดมีข่าวออก มาว่าทีมอยู่ในสภาวะวงแตกซะแล้วหลังผู้บริหารซึ่งเป็นข้าราชการกองทัพเรือใน ฐานะเจ้าของทีมราชนาวีสโมสร ประกาศยกเลิกที่จะร่วมมือกันบริหารทีมกับ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารทีมในฤดูกาลปี พศ. 2553 หลังจากร่วมงานกันมาแค่เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น
สำหรับบ.ระยองไทยพรีเมียร์ คือบริษัทที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารทีมตามข้อกำหนดของ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ผู้กำกับดูแลฟุตบอลลีกในประเทศไทยอย่าง ไทยพรีเมียร์ลีก และลีกดิวิชั่น 1 ซึ่งขึ้นตรงกับสมามฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่รับนโยบายมาจาก สมาพันธฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ในการยกระดับมาตรฐานฟุตบอลลีกในประเทศของไทย นั่นเอง
รับข้อเสนอเจ้าใหม่ให้เงินตอบแทน
รายงานมาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า ก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารกองทัพเรือกับผู้บริหารบ.ระยองไทยพรีเมียร์ลีกได้ คุยกันแล้วเมื่อราวสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีโดยทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมจะร่วมงานกันต่อไปโดยบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด จะเป็นผู้บริหารทีมขณะที่ทรัพยากรนักเตะจะมาจากกองทัพเรือจากทีมราชนาวี สโมสรนั่นเอง แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 15 พย. 53 ที่ผ่านมานั้นฝากของราชนาวีสโมสร เอง ได้แจ้งมายังบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ว่าจะเลิกทำธุรกรรมร่วมกันแล้ว
สำหรับการที่ราชนาวีสโมสร เอง จะเปลี่ยนบริษัทใหม่ให้เข้ามาบริหารทีมแทน บ.ระยองไทยพรีเมียร์ นั้นมีการเปิดเผยมาจากคนในฝากของบ.ไทยพรีเมียร์ จำกัด ว่าผู้บริหารทีมราชนาวีสโมสร ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือพร้อมจะรับข้อเสนอที่บริษัทใหม่ยื่น เข้ามาให้โดยเฉพาะเรื่องเงินตอบแทนในตำแหน่งของทีมที่บริษัทที่จะเข้ามาใหม่ พร้อมให้เงินเดือนกับประธานสโมสร , ผจก.ทีมถึงเดือนละ 1 แสนบาทขณะที่ตัวผู้ฝึกสอนจะให้ถึงเดือนละ 1.5 แสนบาท ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ทำให้นายทหารเรือที่มีอำนาจในทีมราชนาวีสโมสร ขณะนี้ไม่สามารถปฎิเสธได้
สจ.เปี๊ยกยันระยองใช้สิทธิทำเอง
กับข่าวดังกล่าวที่ออกมานั้น "สจ.เปี๊ยก" เศรษฐา ปิตุเตชะ ประธานสภาอบจ.ระยอง , นายกสมาคมกีฬาจ.ระยองในฐานะของ ประธาน บ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ได้ออกมากล่าวว่า " ผมในฐานะของตัวแทนของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรทำไมผู้บริหารจากฝากของ กองทัพเรือถึงกลับลำเช่นนี้ทั้งก่อนหน้านี้ที่มีการประชุมกัน 2 ฝ่ายระหว่างเรากับเขาหลังจากไทยพรีเมียร์ฤดูกาลล่าสุดจบสิ้นลงทุกอย่างก็ เป็นไปด้วยดีเขาเองก็บอกว่าพร้อมจะร่วมงานกับเราต่อไปแต่พอวันที่ 15 พย. ที่ผ่านมาก็แจ้งมายังเราว่าจะไม่ร่วมงานกับเราแล้วจะให้เรามีบทบาทแค่ขายของ ที่ระลึกเท่านั้นเจอแบบนี้เราเองรับไม่ได้แน่นอนฤดูกาลที่เพิ่งจบไปที่เรา เข้ามาบริหารทีมเป็นปีแรกนั้นเราทำทุกอย่าง โดยเฉพาะการจ่ายเงินให้กับนักเตะทั้งในส่วนของนักเตะต่างชาติหรือกระทั่งนัก เตะและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคนที่เป็นข้าราชการทหารเรือเองก็มีเงินเดือนให้ ยังไม่รวมการบริหารจัดการด้านอื่นๆเขาแค่ให้บุคลากรนักเตะมาใช้งานเท่านั้น เองผมว่าเขาทำกับเราแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่แฟร์กับเราเลย ถึงตอนนี้ผมเองในฐานะของประธานบ.ระยองไทยพรีเมียร์ ที่ถือสิทธิในการทำทีมที่ถูกต้องกับบ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ,สมาคมฟุตบอลฯคงต้องใช้สิทธิดังกล่าวบริหารทีม ราชนาวีระยอง เองต่อไปเพราะเป็นสิทธิอันชอบธรรมของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ อยู่แล้ว"
เตรียมบริหารเองไม่ใช้แข้งราชนาวี
ประธานบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด กล่าวอีกด้วยว่า "เรามีสิทธิในการบริหารทีมต่อไปอย่างแน่นอนซึ่งเรื่องตัวผู้เล่นนั้นไม่มี ปัญหาแน่นอนเราพร้อมจะหาเข้ามาใหม่โดยไม่ต้องใช้บริการนักเตะจากราชนาวี สโมสรเลยแม้แต่รายเดียวซึ่งผมเชื่อว่าเรามีกำลังในส่วนของงบประมาณที่จะจ้าง นักเตะฝีเท้าดีมาเล่นให้อย่างแน่นอนจริงแล้วถ้าถามว่ายังอยากได้นักเตะบาง รายของราชนาวีสโมสร มาเล่นให้ต่อไปหรือไม่แน่นอนเพราะหลายๆคนฝีเท้าดีอยู่แล้วแต่เชื่อว่าหากเรา ได้สิทธิทำทีมต่อไปจริงเขาคงไม่ปล่อยนักเตะมาเล่นกับเราแน่นอน"
หากต้องเล่นกันถึงศาลก็พร้อมสู้
"สจ.เปี๊ยก" ยังกล่าวอีกด้วยว่า " กรณีดังกล่าวนี้ผมมั่นใจว่าสิทธิอันชอบธรรมในการที่จะได้บริหารทำทีมส่งเข้า ร่วมการแข่งขัน ไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้านั้นต้องเป็นของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด แน่นอนหากทางผู้บริหารราชนาวีสโมสรจะอ้างว่าสิทธิในการทำทีมส่งทีมเข้าร่วม เป็นของเขาในฐานะเจ้าของทีมก็ขึ้นอยู่กับเขาเองหากเรื่องนี้จะต้องบานปลายไป ถึงโรงถึงศาลกันเพื่อให้ได้ข้อยุติบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ก็พร้อมจะสู้ให้ถึงที่สุด"
ยันยังพร้อมเจรจากับทหารเรือ
"สจ.เปี๊ยก " กล่าวต่ออีกว่า " ถึงตอนนี้ที่ผมทราบมาทางผู้บริหารราชนาวีสโมสร ยังยืนยันที่จะให้บริษัทใหม่เข้าไปบริหารทีมให้ ผมบอกเลยว่าทางบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ยังพร้อมที่จะเจรจากับผู้บริหารของราชนาวีสโมสรอยู่ที่ผ่านมาเราได้ประนี ประนอมกับเขาจนถึงที่สุดแล้วหากจะมีการเจรจากันอีกรอบผมก็พร้อมจะเจรจาด้วย อย่างแน่นอนผมยังเชื่อว่าหากมีการคุยกันแบบถอยละก้าวระหว่างเรากับเขา น่าจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไปได้สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะชี้แจงอีกเรื่องก็ คือฤดูกาลที่เพิ่งจบไปนั้นบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด มีงบดุลที่ขาดทุนไม่ใช่ว่าเข้ามาทำแล้วได้กำไรโดยขาดทุนไปถึงราว 5 ล้านบาทบริษัทใหม่ที่จะเข้ามาไม่ทราบว่ารู้ข้อมูลตรงนี้หรือเปล่าเหตุที่ผม อยากทำก็เพื่ออยากให้คนระยอง บ้านเกิดของผมได้มีส่วนร่วมกับฟุตบอลลีกสูงสุดในประเทศอย่างไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าชาวระยองทุกคนมีความสุขกับการได้ดู ฟุตบอลดีๆอย่างไทยพรีเมียร์ลีก ภายใต้การบริหารงานของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ นั่นเอง "
ดร.วิชิตยันสิทธิเป็นของบ.ระยอง ฯ
สยามกีฬาได้สอบถามไปยังดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบ. ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ก่อนได้รับคำตอบมาว่า " สิทธิในการบริหารทีมส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด อย่างแน่นอนกรณีดังกล่าวต้องถามว่า ราชนาวีสโมสร คือใคร เขามีสิทธิแค่ตัวทีมราชนาวีสโมสรที่ขึ้นทะเบียนเป็นสโมสรสมาชิกของสมาคม ฟุตบอลแห่งประเทศไทย เท่านั้นไม่มีใครเถียงแต่สิทธิในการบริหารทีมของบ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ที่ดูแลจัดการแข่งขันนั้นเป็นของ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องไว้กับ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด อย่างแน่นอน ราชนาวีสโมสร ไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทไว้กับบ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด จะมีสิทธิได้อย่างไรผมในฐานะของประธานบ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัดยืนยันได้อย่างเดียวว่าสิทธิเป็นของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด อย่างแน่นอน "
นาวีฯวงแตกทร.เลิกคบบ.ระยองฯ
ส่อเค้าวงแตกซะแล้วสำหรับทีม "ม้านิลมังกร" ราชนาวีระยอง ที่ฤดูกาลนี้ทำผลงานได้ดีแทบทุกรายการที่ลงแข่งขันไม่ว่าจะเป็นไทยพรีเมียร์ ลีกที่รอดตกชั้นหรือกระทั่งฟุตบอลถ้วยอย่าง มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ก็ผ่านเข้าถึงรอบรองฯ ก่อนจะแพ้ให้เมืองทองฯไปเช่นเดียวกันรายการอย่างโตโยต้าลีกคัพ ก็สร้างผลงานได้ดีถึงขนาดเข้ารอบรองฯได้สำเร็จอีกรายการแต่ล่าสุดมีข่าวออก มาว่าทีมอยู่ในสภาวะวงแตกซะแล้วหลังผู้บริหารซึ่งเป็นข้าราชการกองทัพเรือใน ฐานะเจ้าของทีมราชนาวีสโมสร ประกาศยกเลิกที่จะร่วมมือกันบริหารทีมกับ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารทีมในฤดูกาลปี พศ. 2553 หลังจากร่วมงานกันมาแค่เพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น
สำหรับบ.ระยองไทยพรีเมียร์ คือบริษัทที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารทีมตามข้อกำหนดของ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ผู้กำกับดูแลฟุตบอลลีกในประเทศไทยอย่าง ไทยพรีเมียร์ลีก และลีกดิวิชั่น 1 ซึ่งขึ้นตรงกับสมามฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่รับนโยบายมาจาก สมาพันธฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ในการยกระดับมาตรฐานฟุตบอลลีกในประเทศของไทย นั่นเอง
รับข้อเสนอเจ้าใหม่ให้เงินตอบแทน
รายงานมาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า ก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารกองทัพเรือกับผู้บริหารบ.ระยองไทยพรีเมียร์ลีกได้ คุยกันแล้วเมื่อราวสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีโดยทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมจะร่วมงานกันต่อไปโดยบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด จะเป็นผู้บริหารทีมขณะที่ทรัพยากรนักเตะจะมาจากกองทัพเรือจากทีมราชนาวี สโมสรนั่นเอง แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 15 พย. 53 ที่ผ่านมานั้นฝากของราชนาวีสโมสร เอง ได้แจ้งมายังบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ว่าจะเลิกทำธุรกรรมร่วมกันแล้ว
สำหรับการที่ราชนาวีสโมสร เอง จะเปลี่ยนบริษัทใหม่ให้เข้ามาบริหารทีมแทน บ.ระยองไทยพรีเมียร์ นั้นมีการเปิดเผยมาจากคนในฝากของบ.ไทยพรีเมียร์ จำกัด ว่าผู้บริหารทีมราชนาวีสโมสร ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือพร้อมจะรับข้อเสนอที่บริษัทใหม่ยื่น เข้ามาให้โดยเฉพาะเรื่องเงินตอบแทนในตำแหน่งของทีมที่บริษัทที่จะเข้ามาใหม่ พร้อมให้เงินเดือนกับประธานสโมสร , ผจก.ทีมถึงเดือนละ 1 แสนบาทขณะที่ตัวผู้ฝึกสอนจะให้ถึงเดือนละ 1.5 แสนบาท ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ทำให้นายทหารเรือที่มีอำนาจในทีมราชนาวีสโมสร ขณะนี้ไม่สามารถปฎิเสธได้
สจ.เปี๊ยกยันระยองใช้สิทธิทำเอง
กับข่าวดังกล่าวที่ออกมานั้น "สจ.เปี๊ยก" เศรษฐา ปิตุเตชะ ประธานสภาอบจ.ระยอง , นายกสมาคมกีฬาจ.ระยองในฐานะของ ประธาน บ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ได้ออกมากล่าวว่า " ผมในฐานะของตัวแทนของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรทำไมผู้บริหารจากฝากของ กองทัพเรือถึงกลับลำเช่นนี้ทั้งก่อนหน้านี้ที่มีการประชุมกัน 2 ฝ่ายระหว่างเรากับเขาหลังจากไทยพรีเมียร์ฤดูกาลล่าสุดจบสิ้นลงทุกอย่างก็ เป็นไปด้วยดีเขาเองก็บอกว่าพร้อมจะร่วมงานกับเราต่อไปแต่พอวันที่ 15 พย. ที่ผ่านมาก็แจ้งมายังเราว่าจะไม่ร่วมงานกับเราแล้วจะให้เรามีบทบาทแค่ขายของ ที่ระลึกเท่านั้นเจอแบบนี้เราเองรับไม่ได้แน่นอนฤดูกาลที่เพิ่งจบไปที่เรา เข้ามาบริหารทีมเป็นปีแรกนั้นเราทำทุกอย่าง โดยเฉพาะการจ่ายเงินให้กับนักเตะทั้งในส่วนของนักเตะต่างชาติหรือกระทั่งนัก เตะและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคนที่เป็นข้าราชการทหารเรือเองก็มีเงินเดือนให้ ยังไม่รวมการบริหารจัดการด้านอื่นๆเขาแค่ให้บุคลากรนักเตะมาใช้งานเท่านั้น เองผมว่าเขาทำกับเราแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่แฟร์กับเราเลย ถึงตอนนี้ผมเองในฐานะของประธานบ.ระยองไทยพรีเมียร์ ที่ถือสิทธิในการทำทีมที่ถูกต้องกับบ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ,สมาคมฟุตบอลฯคงต้องใช้สิทธิดังกล่าวบริหารทีม ราชนาวีระยอง เองต่อไปเพราะเป็นสิทธิอันชอบธรรมของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ อยู่แล้ว"
เตรียมบริหารเองไม่ใช้แข้งราชนาวี
ประธานบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด กล่าวอีกด้วยว่า "เรามีสิทธิในการบริหารทีมต่อไปอย่างแน่นอนซึ่งเรื่องตัวผู้เล่นนั้นไม่มี ปัญหาแน่นอนเราพร้อมจะหาเข้ามาใหม่โดยไม่ต้องใช้บริการนักเตะจากราชนาวี สโมสรเลยแม้แต่รายเดียวซึ่งผมเชื่อว่าเรามีกำลังในส่วนของงบประมาณที่จะจ้าง นักเตะฝีเท้าดีมาเล่นให้อย่างแน่นอนจริงแล้วถ้าถามว่ายังอยากได้นักเตะบาง รายของราชนาวีสโมสร มาเล่นให้ต่อไปหรือไม่แน่นอนเพราะหลายๆคนฝีเท้าดีอยู่แล้วแต่เชื่อว่าหากเรา ได้สิทธิทำทีมต่อไปจริงเขาคงไม่ปล่อยนักเตะมาเล่นกับเราแน่นอน"
หากต้องเล่นกันถึงศาลก็พร้อมสู้
"สจ.เปี๊ยก" ยังกล่าวอีกด้วยว่า " กรณีดังกล่าวนี้ผมมั่นใจว่าสิทธิอันชอบธรรมในการที่จะได้บริหารทำทีมส่งเข้า ร่วมการแข่งขัน ไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้านั้นต้องเป็นของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด แน่นอนหากทางผู้บริหารราชนาวีสโมสรจะอ้างว่าสิทธิในการทำทีมส่งทีมเข้าร่วม เป็นของเขาในฐานะเจ้าของทีมก็ขึ้นอยู่กับเขาเองหากเรื่องนี้จะต้องบานปลายไป ถึงโรงถึงศาลกันเพื่อให้ได้ข้อยุติบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ก็พร้อมจะสู้ให้ถึงที่สุด"
ยันยังพร้อมเจรจากับทหารเรือ
"สจ.เปี๊ยก " กล่าวต่ออีกว่า " ถึงตอนนี้ที่ผมทราบมาทางผู้บริหารราชนาวีสโมสร ยังยืนยันที่จะให้บริษัทใหม่เข้าไปบริหารทีมให้ ผมบอกเลยว่าทางบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด ยังพร้อมที่จะเจรจากับผู้บริหารของราชนาวีสโมสรอยู่ที่ผ่านมาเราได้ประนี ประนอมกับเขาจนถึงที่สุดแล้วหากจะมีการเจรจากันอีกรอบผมก็พร้อมจะเจรจาด้วย อย่างแน่นอนผมยังเชื่อว่าหากมีการคุยกันแบบถอยละก้าวระหว่างเรากับเขา น่าจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไปได้สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะชี้แจงอีกเรื่องก็ คือฤดูกาลที่เพิ่งจบไปนั้นบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด มีงบดุลที่ขาดทุนไม่ใช่ว่าเข้ามาทำแล้วได้กำไรโดยขาดทุนไปถึงราว 5 ล้านบาทบริษัทใหม่ที่จะเข้ามาไม่ทราบว่ารู้ข้อมูลตรงนี้หรือเปล่าเหตุที่ผม อยากทำก็เพื่ออยากให้คนระยอง บ้านเกิดของผมได้มีส่วนร่วมกับฟุตบอลลีกสูงสุดในประเทศอย่างไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าชาวระยองทุกคนมีความสุขกับการได้ดู ฟุตบอลดีๆอย่างไทยพรีเมียร์ลีก ภายใต้การบริหารงานของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ นั่นเอง "
ดร.วิชิตยันสิทธิเป็นของบ.ระยอง ฯ
สยามกีฬาได้สอบถามไปยังดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบ. ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ก่อนได้รับคำตอบมาว่า " สิทธิในการบริหารทีมส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด อย่างแน่นอนกรณีดังกล่าวต้องถามว่า ราชนาวีสโมสร คือใคร เขามีสิทธิแค่ตัวทีมราชนาวีสโมสรที่ขึ้นทะเบียนเป็นสโมสรสมาชิกของสมาคม ฟุตบอลแห่งประเทศไทย เท่านั้นไม่มีใครเถียงแต่สิทธิในการบริหารทีมของบ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ที่ดูแลจัดการแข่งขันนั้นเป็นของ บ.ระยองไทยพรีเมียร์ ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องไว้กับ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด อย่างแน่นอน ราชนาวีสโมสร ไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทไว้กับบ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด จะมีสิทธิได้อย่างไรผมในฐานะของประธานบ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัดยืนยันได้อย่างเดียวว่าสิทธิเป็นของบ.ระยองไทยพรีเมียร์ จำกัด อย่างแน่นอน "