ความเคลื่อนไหวศึก มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอ คัพ 2010 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ 2010 โดยโคจรมาพบกับ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ซึ่งได้มีการจัดงานแถลงข่าว "มีต เดอะ เพรส" เพื่อให้สโมสรที่จะลงทำการแข่งขัน ได้ออกมาแถลงความพร้อมของทีมตัวเอง
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีแขกผู้มีเกียรติ เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้มากมาย นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการเลขานุการ มูลนิธิ ไทยคม, "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ สมาคมฟุตบอลฯ และ สุนทร มีสุวรรณ เหรัญญิก สมาคมฟุตบอลฯ ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ ภายในสนามศุภชลาศัย
โดยฝ่ายจัดได้เชิญตัวแทนทีมที่จะลงดวลแข้งในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.นี้ ซึ่งฝั่งของ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ประกอบไปด้วย "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผจก.ทั่วไป, เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือใหญ่ พร้อมด้วย ณัฐพร พันฤทธิ์ ปราการหลังจอมแกร่ง ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี นำทัพโดย "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ เฮดโค้ช, จีระศักดิ์ โจมทอง ผอ.ประชาสัมธ์พันธ์ของสโมสร และ เทิดศักดิ์ ใจมั่น กองกลางจอมเก๋า ท่ามกลางผู้สื่อข่าวทุกสำนัก ให้ความสนใจเดินทางมาทำข่าวครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ซึ่ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการเลขานุการมูลนิธิไทยคม ได้ออกมากล่าวว่า ก่อนเกมนัดชิงในวันที่ 28 พ.ย.นี้ จะมีการเปิดคลินิกให้กับเยาวชนที่สนใจฟุตบอล ได้ร่วมสนุกกันตั้งแต่เวลาบ่ายโมงที่สนามศุภชลาศัย และจะนำเยาวชนที่เคยผ่านเข้าร่วมโครงการ และกิจกรรมต่างที่ทาง มูลนิธิไทยคม จัดขึ้นจำนวนทั้งสิ้น 400 คน มาเดินพาเหรดนำถ้วยชนะเลิศ มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2010 ลงสู่สนาม
โดยเยาวชนทั้ง 400 คน มาจาก เยาวชนภาคเหนือที่ชนะเลิศจากการแข่งขัน ไทยคม จูเนียร์ ฟุตบอล เฟสติวัล 2010, เยาวชนที่เคยร่วมกิจกรรมเปิดประสบการณ์โลกเยาวชนไทยไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เยาวชนจากโรงเรียนโสมาภานุสรณ์ที่มูลนิธิไทยคม สนับสนุนทุนการศึกษาทางด้านกีฬา และเยาวชนจากชุมชนเรวดี จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ติดต่อขอร่วมอบรมกิจกรรมคลินิกฟุตบอลกับ มูลนิธิไทยคม
นอกจากนี้ กรรมการเลขานุการมูลนิธิไทยคม เตรียมนำวงดุริยางค์มาอัญเชิญถ้วย เอฟเอคัพ ลงสู่สนาม ก่อนเริ่มการแข่งขันอีกด้วย
ในส่วนความสงสัยของแฟนบอลหลายคน ที่อยากรับทราบถึงระบบการรักษาความปลอดภัยในเกมนี้ ว่าจะมีมาตรการความคุมได้ดีมากน้อยเพียงใด ซึ่ง "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯสมาคมฟุตบอลฯ ออกมาพูดว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับทั้ง 2 สโมสร ที่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบชิงชนะเลิศนี้ได้ และถือเป็นรายการที่มีความหมายของทั้ง 2 ทีม เนื่องจากหาก เมืองทองฯ เป็นแชมป์จะสามารถทำสถิติ คว้าดับเบิลแชมป์ในปีนี้
หาก ชลบุรี เอฟซี เป็นแชมป์ในปีนี้ พวกเขาจะได้รับสิทธิ์ไปเล่น เอเอฟซี คัพ ฤดูกาลหน้า นั่นหมายความว่าระบบรักษาความปลอดภัยในเกมนี้ ต้องมีมาตรการที่คุมเข้มอย่างชัดเจน เราได้แยกแฟนบอลของ เมืองทองฯ ไปอยู่อัฒจันทร์ทิศเหนือ ส่วนกองเชียร์ของ ชลบุรี จะไปอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งจะต้องเข้าประตูคนละด้าน และมีเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปราม 60 คน รวมไปถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจ, สุนัขตำรวจ, หน่วยรักษาความปลอดภัย พร้อมกับ สห. ที่จะเข้ามาช่วยไปไม่ต่ำกว่า 400 คน
เนื่องจากเราต้องการให้มาควบคุมแฟนบอลของทั้ง 2 ทีม ที่น่าจะมีไม่ต่ำกว่าทีมละ 9 พันคน รวมไปถึงก่อนเข้าสนามจะมีการตรวจค้นอาวุธอันตราย วัตถุต้องสงสัย ประกอบกับการตรวจแอลกอฮอร์ เพื่อจะไม่ให้เกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน