การแข่งขันฟุตบอล รอบเพลย์ออฟขึ้นไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ที่สนามกีฬากองทัพบก "ตรากงจักร" อาร์มี่ ยูไนเต็ด เปิดรับพบกับ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด โดยเกมนี้หาก อาร์มี่ ยูไนเต็ด แค่เสมอ ก็จะได้อยู่ในไทยพรีเมียร์ลีกต่อไปทันที ส่วน แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเกมนี้หากพวกเค้าไม่สามารถชนะได้ ก็จะต้องร่วงลงสู่ดิวิชั่น 1 เช่นกัน
เริ่มเกมครึ่งแรก ท่ามกลางกองเชียร์ของทั้งสองฝั่ง ที่แห่กันมาแน่นสนาม น.28 บอลยาวจากแดนหลังขึ้นหน้า ให้กับ แม็กซิม โขกชงต่อให้ ซารีฟ สายนุ้ย ในเขตโทษจับบอลลงได้สวย แต่จังหวะยิงไม่ดีข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
น.32 ซารีฟ สายนุ้ย ได้บอลจากลูกทุ่ม แล้วเลี้ยงวนไปที่มุมธง ก่อนที่จะเปิดด้วยซ้ายไปที่เสาสองให้ แม็กซิม ได้ขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ แต่ไปตรงตัว โคจิ จุน นายทวารอาร์มี่ เซฟไว้ได้สบาย หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง น.65 แบงค็อก ยูไนเต็ด มาได้ลูกฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลาหน้ากรอบเขตโทษ กรวิทย์ นามวิเศษ รับหน้าที่ปั่นเองบอลพุ่งโค้ง แต่แรงไปหน่อยข้ามคานออกไป
น.78 จากลูกฟรีคิกกลางสนาม ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ มาซาฮิโร่ ฟูกาซาว่า ได้ขึ้นโขกเน้นๆ บอลทำท่าจะเช็ดใต้คาน ทว่า โคจิ จุน เซฟได้สุดปลายมืออย่างเหลือเชื่อทีเดียว
ช่วงท้ายเกม แบงค็อก ยูไนเต็ด พยายามเร่งเกมบุกอย่างหนัก ทว่าทำอะไร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขันเสมอกันไป 0-0 ส่งผลให้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ได้อยู่เล่นใน ไทยพรีเมียร์ลีกต่อไป ส่วน แบงค็อก ยูไนเต็ด ตกลงไปเล่นในดิวิชั่น 1 ฤดูกาลหน้า
หลังเกม
"โค้ชพงษ์" ธนเดช ฟูประเสริฐ กุนซือ อาร์มี่ ยูไนเต็ด กล่าวว่า "ถือว่าน่ายินดีอย่างยิ่งครับ ที่เราได้อยู่ในไทยพรีเมียร์ลีกต่อไป สิ่งที่ผมหวังเอาไว้และทุกๆ คนหวังเอาไว้สำเร็จแล้ว เราได้อยู่ไทยลีกต่อแน่นอน และเกมนี้เราวางแผนมาอย่างดีและใช้ได้ผลทีเดียว
"น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช กุนซือ แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า "เราก็ยอมรับแหละ เพราะว่าเราทำกันไม่ได้เอง เรามีโอกาสเยอะแต่ทำไม่ได้ แม้ว่าเราจะลงไปเล่นดิวิชั่น 1 แต่ว่าเราก็ต้องยอมรับ แล้วเราจะขึ้นมาไทยลีกให้ได้ในปีเดียว"