ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฉลามชลเปิดศักราชสวยคว้าถ้วย ก เฉือนกิเลน2-1 สุรีย์ควงเอกพันธ์คนละเม็ด



ชลบุรี เอฟซี คว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก เป็นสมัยที่ 3 จากการเอาชนะเมืองทอง ยูไนเต็ด 2 - 1 สุรีย์ สุขะ ยิงไปก่อน เอกพันธ์ อินทเสน บวกลูกที่ 2 ส่วนทางเมืองทองได้ประตูจาก คริสเตียน เคาคู นักเตะยอดเยี่ยมเป็นของ เอกพันธ์ อินทเสน รับฮอนด้า ซีบีอาร์ 150 มูลค่า 8 หมื่นไปครอง

การแข่งขันฟุตบอลสโมสรชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก ประจำปี 2553 ในวันที่ 30 ม.ค. 2554 เวลา 16.00 น. ณ สนามศุภชลาศัย ในการพบกันระหว่าง "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์เก่าที่มีในชุดเสื้อสีแดง กางเกงสีดำ ถุงเท้าสีดำ ซึ่งเป็นการคุมทีมประเดิมสนามอย่างเป็นทางการของ คาร์ลอส คาร์วัลโญ่ พบกับ แชมป์ 2 สมัย "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ที่ใช้ชุดน้ำเงินทั้งชุด มี "มาสเตอร์เด็ด" จเด็จ มีลาภ คุมทีม


แฟน2ทีมยกพลรอเชียร์ตั้งแต่บ่าย
บรรยากาศที่สนามศุภชลาศัย ในช่วงก่อนเกมการแข่งขัน แฟนบอลของทั้งสองทีมได้ทยอยกันเดินทางมารอเชียร์ทีมรักของตัวเองกันตั้งแต่ ช่วงบ่ายเศษๆ ซึ่งบรรยากาศโดยรอบของสนามศุภชลาศัย ต้องบอกว่าคึกคักไปด้วยบูธกิจกรรมของแต่ละสโมสร รวมไปถึงบูธกิจกรรมของสปอนเซอร์เจ้าต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนบอลที่เข้าร่วมสนุกกันเป็นจำนวนมาก

ต่อคิวแน่นรอเข้าชมเกม
เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลา 15.30 น. แฟนบอลของทั้งสองทีมเริ่มที่จะต่อคิวกันเดินเข้าสู่สนาม โดยแฟนบอลของทีมเมืองทองฯจะเข้าสนามทางฝั่งอัฒจันทร์ทิศเหนือและตะวันออก เฉียงเหนือ ส่วนแฟนบอลชลบุรีจะเข้าสนามทางฝั่งอัฒจันทร์ทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้ในช่วงเวลา 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาแข่งขัน สนามศุภชลาศัยจึงเนืองแน่นไปด้วยแฟนบอลอุลตร้าเมืองทองและแฟนบอลฉลามชล

ฝ่ายจัดคุมเข้มกันเหตุวิวาท
ขณะที่ในเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัย ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษา ความปลอดภัยมากถึง 464 นาย โดยทุกนายจะประจำการในจุดต่างๆรอบสนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างทำงานกันอย่างเต็มที่รัดกุม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งจุดตรวจอาวุธก่อนทางเข้าสนาม รวมถึงมีการตรวจค้นร่างกายอย่างละเอียดเพื่อกันไม่ให้เหตุวุ่นวายเกิดขึ้น นอกจากนั้นฝ่ายจัดการแข่งขันยังคุมเข้มไม่ให้แฟนบอลนำขวดน้ำเข้าสนามอีกด้วย เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มกองเชียร์จะขวางปาขวดน้ำลงไปในสนามแข่งขัน

ฉลามชลเปิดฉากดุดันสุรีย์ได้ลอง2หน
เพียง น.2 ชลบุรีได้ทักทายก่อนจากจังหวะทำชิ่งกันในกรอบเขตโทษของ พิภพ อ่อนโม้ กับ สุรีย์ สุขะ ก่อนที่ สุรีย์ สุขะ จะแต่งบอลเข้าเท้าซ้ายแล้วยิงไปที่เสาแรกตรงตัวของ วีระ เกิดพุดซา จากนั้น น.5 ปกาศิต แสนสุข แบ็กขวาเมืองทองมีอาการบาดเจ็บที่ต้นขาซ้ายต้องออกมาฉีดสเปรย์ที่ข้างสนาม

ชลบุรีได้ลุ้นอีก น.8 เป็น สุรีย์ สุขะ อีกครั้งที่รับบอลจากลูกเปิดกลางสนามก่อนจี้เข้าเขตโทษแล้วซัลโวเต็มข้อบอล เหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

ดัสกรรับเหลืองแรก
น.12 "ฉลามชล" ได้สวนกลับอันตราย เทิดศักดิ์ ใจมั่น พาบอลจากแดนตัวเองมาถึงกลางสนามแต่ว่า ดัสกร ทองเหลา เข้ามาแซะจากด้านหลัง ทำให้ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสินไม่ลังเลใจที่ควักใบเหลืองให้กับจอมทัพเมืองทอง

น้าเทิดซัดฟรีคิกชนคาน
โอกาสยังคงเป็นของชลบุรี น.17 ได้ฟรีคิกที่ริมเส้นฝั่งซ้ายแม้มุมจะแคบแต่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ลองยิงเอง โดยผ่านมือของ วีระ เกิดพุดซา ไปแล้วแต่ยังไปชนคานกระเด้งออกมา ทางด้านเมืองทองได้ลุ้นบ้าง น.23 ดัสกร ทองเหลา เปิดฟรีคิกมุมเขตโทษทางฝั่งซ้าย ดั๊กโน่ เซียก้า ได้โหม่งแต่โดนไม่ดีบอลหลุดไปไม่ได้ลุ้น

ชลบุรีบุกขึ้นมาทีไรได้เสียวทุกที น.26 ขึ้นเกมมาทางฝั่งขวา เทิดศักดิ์ ใจมั่น ปาดเรียดเข้าเขตโทษให้ พิภพ อ่อนโม้ ดีดคืนหลังให้ เอกพันธ์ อินทเสน ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาบอลเฉียดเสาไกลไปอีก

จบครึ่งแรกยังไร้สกอร์
น.34 ดิยาร์ร่า อาลี ตัวตัดเกมของเมืองทองรับใบเหลืองจากการไปรวบ พิภพ อ่อนโม้ ที่บริเวณกลางสนาม

เมืองทองปล่อยโอกาสทองหลุดมือ น.41 ธีรศิลป์ แดงดา รับบอลจาก ดั๊กโน่ เซียก้า แล้วยิงจากนอกกรอบเขตโทษบอลเหินข้ามคานไปแบบหวาดเสียว จากนั้นทั้งคู่ยังยิงประตูไม่ได้จบครึ่งแรกเสมอกัน 0 - 0

เกมเปิดแลก โกล์โชว์เซฟคนละครั้ง

ในครึ่งหลังเป็นทางเมืองทองที่เริ่มได้สวย น.49 ในจังหวะชุลมุนหน้าเขตโทษของชลบุรีบอลทะลักมาที่หัวกระโหลก ภานุพงศ์ วงษ์ศา วอลเลย์สวนทันทีบอลเกือบเสียบเสาอยู่แล้ว ทว่ายังไม่ผ่านมือของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่เซฟไว้ได้สุดยอด

น.62 ชลบุรีสวนกลับได้น่ากลัว ณัฐพงษ์ สมณะ ขึ้นเกมมาทางซ้ายจ่ายบอลให้ พิภพ อ่อนโม้ กระชากเข้าเขตโทษแล้วสับไกแล้วเท้าซ้าย บอลพุ่งเข้ากรอบทว่า วีระ เกิดพุดซา ยังไม่พลาดปัดบอลทิ้งออกหลังไปได้

หน3ไม่พลาดสุรีย์ยิงซ้ำฉลามชลนำ
น.65 เทิดศักดิ์ ใจมั่น เตะมุมทางฝั่งซ้าย พิภพ อ่อนโม้ ได้โขกในจังหวะแรกแต่ยังไปติดตัวคุมเส้น สุรีย์ สุขะ ได้โอกาสเป็นครั้งที่ 3 ในเกมนี้โดยตามซ้ำจ่อๆคราวนี้ไม่พลาดส่งบอลเข้าประตูให้ชลบุรีออกนำ 1 - 0

จากนั้นผู้เล่นเมืองทองต้องมาถูกใบเหลือง 2 คนติดๆกันจากการที่ คริสเตียน เคาคู ไม่ยอมรับคำตัดสิน และจังหวะต่อมา ปกาศิต แสนสุข ไปทำฟาวล์ อนุชา กิจพงษ์ศรี รับใบเหลืองเป็นคนที่ 4 ของเมืองทอง

หลังจากถูกออกนำทัพ "กิเลนผยอง" นิ่งไม่ได้แล้ว คาร์ลอส คาร์วัลโญ่ กุนซือชาวบราซิลต้องส่ง อานนท์ สังสระน้อย ลงสนามไปแทน ดัสกร ทองเหลา น.71

ได้เพิ่มฝ่ายละลูกสกอร์เปลี่ยน2-1
น.86 ชลบุรีหนีห่างเป็น 2 - 0 ชลทิตย์ จันทคาม เปิดบอลจากแดนตัวเองให้กับ เอกพันธ์ อินทเสน หลุดเข้าไปซัดมุมแคบบอลพุ่งเรียดผ่านมือ วีระ เกิดพุดซา เข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด

แต่เมืองทองยังไม่ละความพยายาม น.89 จักรพันธ์ พรใส เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ออกมาตัดบอลพลาด คริสเตียน เคาคู ถึงบอลก่อนแล้วกระดกข้ามไปยิงเป็นประไล่มาเป็น 2 - 1 อย่างง่ายดาย

จบเกมชลบุรีชนะ2-1คว้าแชมป์สมัยที่3
ช่วงเวลาที่เหลือเมืองทองบุกกดดันอย่างหนักแต่แนวรับของชลบุรียังช่วยกันได้ ดี หมดเวลาการแข่งขันเป็นทางชลบุรีเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2 - 1 คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นสมัยที่ 3 หลังจากก่อนหน้านี้เคยได้แชมป์มาแล้วในปี 2550 และ 2551

เอกพันธ์คว้านักเตะยอดเยี่ยม
"เชอรี่" เอกพันธ์ อินทเสน ปีกขวาตัวเก่งของชลบุรี เอฟซี คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟุตบอลสโมสรชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก ในครั้งนี้ไปครอง หลังจากยิง 1 ประตูให้กับต้นสังกัดและทุ่มเทเกินร้อยในเกมนี้ ได้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบีอาร์ 150 มูลค่า 80,000 บาท ไปครอบครอง

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เมืองทอง ยูไนเต็ด : วีระ เกิดพุดซา (GK),ปกาศิต แสนสุข (พิชิตพงษ์ เฉยฉิว น.78),ภานุพงศ์ วงษ์ศา,ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ (C),เซช เรห์มาน,ดัสกร ทองเหลา (อานนท์ สังสระน้อย น.71),ดั๊กโน่ เซียก้า,ดิยาร์ร่า อาลี,บูบาการ์ อิสซูฟู (จักรพันธ์ พรใส น.85),คริสเตียน เคาคู,ธีรศิลป์ แดงดา

ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK),สุรีย์ สุขะ,สุทธินันท์ พุกหอม,ชลทิตย์ จันทคาม,อนุชา กิจพงษ์ศรี,เอกพันธ์ อินทเสน (เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ น.90+4),คาซูโตะ คูชิดะ,ณัฐพงษ์ สมณะ,เทิดศักดิ์ ใจมั่น,อดุล หละโสะ,พิภพ อ่อนโม้ (C - เนย์ ฟาเบียโน่ น.74)

ผู้ตัดสิน : อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์

สวัสดีปีใหม่ไทย เทศกาลสงสงกรานต์ หลายทีมในลีกอาชีพใด้พักซ้อม 2-3 วัน แต่มีทีมเดียวคือ จุฬา ยูไนเต็ด ซ้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กุนซือใหญ่ชาวแซมบ้า โจเซ่ แฟร์ไรร่า สุดเฮี้ยบ สั่งนักเตะซ้อมตะลุยช่วงสงกรานต์เต็มที่แบบไม่มีหยุดสงกรานต์ อีกทีมที่หยุดวันเดียวคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด หวั่นนักเตะกลับมาหมดสภาพ สั่งให้พักแค่ 13 เม.ย. วันเดียว นักเตะอาชีพเป็นงานที่แปลกกว่าอาชีพอื่นมากเลยครับ เทศกาลสงกรานต์นี้ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ rich_t

ทีโอทีขึ้นป้ายขายกบไซเบอร์อย่างต่ำ1ล้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลในศึก ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ช่วงพักเบรกให้ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ 2 นัด โดย ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 ของตาราง จากการออกสตาร์ต 3 นัดแรก ได้ตั้งราคาขายนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมดีกรีทีมชาติไทย "กบ ไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีม ที่ถือเป็นนักเตะแม่เหล็กประจำทีมอย่างแท้จริง ที่ราคาถึง 1 ล้านกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมทีโอที กล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าเราคิดจะขาย สุเชาว์ นุชนุ่ม เพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เป็นกำลังหลักสำคัญของเราในขณะนี้ แต่หากมีทีมไหนต้องการอยากได้ตัวเขาไปเล่นให้จริงๆ ในฟุตบอลอาชีพ โดยเราตั้งราคาขายไว้ที่หลัก 1 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเล่นกับเรามานาน เรื่องฝีเท้าการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีดีกรีติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง" "หากถามผมว่า อยากจะขายให้ทีมในประเทศหรือไม่ คงไม่อยากขาย แต่ต้องการให้เขามีโอกาสได้ไปเล่นกับลีกต่างชาติมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสลีกของสิงคโปร์หรือวีลีกของเวียดนาม เพื่อมีโอกาสได้ไปเก็บเงินสักก้

ชัยนาทเปิดตัวชุดแหวกแนวทุ่มงบ200ล้านเปลี่ยนชื่อหวังติดท็อปไฟ

ชัยนาท ฮอร์นบิล ในชื่อใหม่เปิดตัวชุดแข่งขัน 2014 สุดฉีกแนวพร้อมประกาศงบ 200 ล้านบาทเทียบเท่าบิ๊กทีมหวังผฝาดท็อปไฟว์ของตาราง สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล หรือ ชัยนาท เอฟซี เดิม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมฤดูกาล 2014สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (15 ก.พ.) โดยมี อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสรเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ชัยนาท ตัดสินใจนำคำว่า ฮอร์นบิล (hornbill) ซึ่งแปลว่านกเงือกสัญลักษณ์ประจำสโมสรและจังหวัดมาต่อท้ายชื่อ พร้อมกับประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 200 ล้านบาท เทียบเท่ากับสโมสรชั้นนำ โดย "เสี่ยแฮงค์" ประธานสโมสรหวังพาทีมจบ 5 อันดับแรกของตารางไทยพรีเมียร์ลีก "ทีมชัยนาทในปีนี้ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงทีม ไม่ว่าจะเป็นการส่วนซื้อตัวผู้เล่นผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม เพื่อให้สโมสรมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเป้าหมายอย่างต่ำต้องติดท็อปเท็นของตาราง แต่จะให้ดีต้องติด 1 ใน 5 ถ้าทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ" สุรชัย จตุรภั