คดีสิทธิ์การทำทีม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ยังยืดเยื้อ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ บอลไทย ขอนำหลักฐานทั้งสองฝ่ายไปพิจารณา ก่อนตัดสิน ในวันที่ 2 ก.พ. ต่อไป ขณะที่ นายวีระ คำมี ประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอลฯ บอกหากยังไม่จบ ทั้งสองฝ่ายมีการโต้แย้งกันอีก และมีผลต่อระยะเวลาในการพิจารณา ก็อาจตัดสิทธิ์ทั้งคู่ เพราะลีกใกล้เปิดแล้ว ด้าน "บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง ย้ำคำเดิมหลักฐานทุกอย่างถูกต้อง หากไม่ได้ทำทีมมีฟ้องแน่
จากการที่องค์กรการท่าเรือแห่งประเทศไทย ออกมาอ้างสิทธิ์ในการบริหารทีมฟุตบอล และต้องการนำสิทธิ์ที่ให้สโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ทำทีมมา 2 ปี กลับคืนมาทำเอง และได้ยื่นเรื่องต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.ขณะที่ทางสโมสรฟุตบอลก็ได้ขอนำหลักฐานมาชี้แจงเช่นกัน และได้มีการยื่นเมื่อบ่ายวันที่ 31 ม.ค.ที่ รร.เรดิสัน
โดยเหตุการณ์นี้ ได้รับความสนใจจากกองทัพสื่อมวลชนกว่าครึ่งร้อยคน มาปักหลักรอรายงานข่าว ซึ่งทีมการท่าเรือไทย เอฟซี นำมาโดย พิเชฐ มั่นคง อดีตประธานสโมสร และ "โค้ชเตี๊ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือของทีม
ขณะที่สมาคมฟุตบอลฯ มี "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการฯ,ธารา พฤกษ์ชอุ่ม รองเลขาธิการฯ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด,ประสาทสิทธุ์ เหรียญศิริ หัวหน้างานสมาคมฟุตบอล และ นายวีระ คำมี ประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอล มารอรับหลักฐาน พร้อมปิดห้องประชุมนานชั่วโมงกว่า ก่อนที่จะมีการแถลงต่อสื่อมวลชน
ซึ่งทาง "บิ๊กเปี๊ยก" ก็ชี้แจงว่าจะขอนำหลักฐานทั้งสองฝ่ายไปพิจารณา ก่อนและจะมีการเรียกประชุมเพื่อตัดสินในวันที่ 2 ก.พ.ต่อไป
ฝ่ายกฏหมายขอพิจารณาให้รอบคอบ
ประธานฝ่ายกฏหมายสมาคมฟุตบอลฯ นายวีระ คำมี ได้ชี้แจงกับสื่อถึงหลักฐานต่างๆว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาจากองค์กรการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ยื่นเรื่องอ้างในสิทธิ์การทำทีมฟุตบอลเมื่อวันที่ 25 ม.ค.จากนั้นเมื่อวันที่ 28 ม.ค.สมาคมฟุตบอลฯ ได้เรียกตัวแทนมาชี้แจง และได้ส่งเอกสารมาบางส่วน
วันนี้ทางสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ก็ได้ยื่นหลักฐานมาเช่นกัน ซึ่งมีจำนวนมากที่เราอยากจะขอพิจารณาให้ละเอียดที่สุดก่อนการตัดสินออกมา โดยแปลความคร่าวๆ จากเอกสารของทีมฟุตบอลได้อ้างว่า บอร์ดของการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้อนุมัติให้บริหารทีมและได้นำหลักฐานมา ชี้แจง
แต่เราก็พิจารณาไม่ได้ เพราะต้องดูในเอกสารว่ามีมติจากบอร์ดอย่างไร อีกทั้งทางองค์กรการท่าเรือแห่งประเทศไทย ก็มีการโต้แย้งว่าไม่ได้เป็นมติจากบอร์ด ฉนั้นเราต้องดูว่าหลักฐานของใครเป็นจริง เป็นเท็จ การพิจารณาจึงต้องรอบคอบที่สุด
ตัดสินไม่ทันก็ตัดสิทธิ์ทั้งคู่
นายวีระ คำมี ชี้แจงต่อสื่อว่า คณะกรรมการพิจารณาไม่มีการตั้งธงล่วงว่าจะให้ใครได้สิทธิ์ในการทำทีม ทุกอย่างมันดูจากหลักฐานจากเอกสารเท่านั้นว่าใครถูกต้อง ฉะนั้นวันนี้ เราไม่มีคำตอบให้จริงๆ ขอเวลาวินิจฉัยก่อน เพราะข้อมูลทั้งสองฝ่ายมีเยอะมาก ถ้าเราเร่งตัดสินอาจจะสร้างความเสียหายในภายหลังได้
ซึ่งมาถึงตรงนี้สื่อได้ถามว่า ถ้าไม่รีบตัดสินจะมีปัญหากับทีมฟุตบอลหรือไม่ เพราะลีกใกล้จะเปิดแล้ว นายวีระ ก็ตอบว่าเราจะเร่งประชุมโดยด่วนและวันที่ 2 ก.พ. ก็น่าจะได้ความคืบหน้า แต่ถ้ายังมีการโต้แย้งกัน และมีผลต่อระยะเวลาในการพิจารณาก็อาจตัดสิทธิ์ทั้งคู่
"บิ๊กเปี๊ยก" ย้ำวันที่ 2 ก.พ.รู้เรื่อง
ด้าน "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า ก็แถลงย้ำกับสื่อด้วยว่า ถึงวันนี้เรามีข้อมูลที่ทั้งสองฝ่ายเสนอเข้ามา แต่ข้อมูลมันเยอะ เราเลยสรุปไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวกับการทำนิติสัมพันธ์ที่มีมาตั้งแต่ปี 2552 และนิติสัมพันธ์ ที่ทำกันก็มีหลายฉบับด้วย เอาเป็นว่าเราจะเร่งให้เร็วที่สุด และต้องจบภายในวันที่ 2 ก.พ. แต่ถ้าไม่จบจริงๆ เราแจ้งทั้งสองฝ่ายแล้วว่าจะต้องนำหลักฐานมาชั้แจงเพิ่มเติมภายในระยะเวลา 7 วัน ซึ่งก็น่าจะทันอยู่สำหรับการแข่งขัน
"สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียน ที่เราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก จาก 3 กรณีที่ผ่านมาทำให้เราต้องมีการร่างกฏระเบียบใหม่ เพื่อป้องกันปัญหาแบบนี้ในภายหลัง ซึ่งทุกอย่างได้ดำเนินการแล้ว และในอนาคตจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้อีกแน่นอน" แม่บ้านสมาคมลูกหนังไทยกล่าว