"ขุนศึก" สระบุรี เอฟซี เดินหน้าถลุง นราธิวาส เอฟซี 4-2 ผ่านเข้าไปดวลเกือกกับ "ม้าลำพอง" ระยอง เอฟซี ที่ต้องลุ้นกันจนเหนื่อยในเกมดวล ปราจีนบุรี เอฟซี จนถึงการดวลฎีกาหลังจากเสมอกันในเวลา 1-1 โดยระยอง แม่นเป้ามากกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 6-4 โดยคู่ชิงฯ ระหว่าง สระบุรี พบ ระยอง จะมีขึ้นในวันที่ 26 ม.ค.นี้ ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม 17.00 น. ศึกเพลย์ออฟหาทีมที่ 18 ลีกดิวิชั่น 1 ซีซั่น 2011 เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา
ศึกเพลย์ออฟเพื่อหาทีมที่ 18 ที่จะได้สิทธิ์ร่วมสังฆกรรมในศึกลีกดิวิชั่น 1 ประจำฤดูกาล 2011 ซึ่งเป็นการนำ 4 ทีมที่แพ้ในรอบเพลย์ออฟที่ผ่านมา มาแข่งขันในระบบแพ้ตกรอบ ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม ทั้ง 4 ทีมก็ได้ฤกษ์ลงสนามแข่งขันกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สระบุรี เอฟซี 4 - นราธิวาส เอฟซี 2
คู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง ''ขุนศึก'' สระบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 แห่งศึก ชปล.ด.2 ซึ่งพลาดท่าแพ้สุพรรณบุรี เอฟซีในรอบเพลย์ออฟด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-3 พบกับ ''กอและพิฆาต'' นราธิวาส เอฟซี ทีมบ๊วยประจำศึก ด.1 ที่แพ้บางกอก เอฟซี ในรอบเพลย์ออฟ 2 นัดสกอร์รวม 2-11
เกมนี้ ''ขุนศึก'' สระบุรี เอฟซี นำมาโดย ''วีระพล อดิเรกสาร'' ประธานสโมสรสระบุรี เอฟซี พร้อมด้วย ''โค้ชแบน'' ธชตวัน ศรีปาน กุนซือใหญ่ ก็สามารถจัดผู้เล่นชุดใหญ่ได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช, แลนดี้ คาร์ริชโซ่ กามาร่า รวมถึง ภานุวัฒน์ พรมเย็น
ด้าน ''เรือกอและพิฆาต'' นราธิวาส เอฟซี ภายใต้การคุมทัพของ อุดมศักดิ์ ยีระเหม กุนซือใหญ่ที่ยังพึ่งบริการลูกทีมตัวหลักอย่าง มูฮัมหมัดไฟซาล บือซา, มูฮาหมัดฮากีกี มามะ และ มูฮัมหมัดฟัดเดอลี บือซา เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกได้เพียงไม่ทันไร ลูกทีมของ ''วีระพล อดิเรกสาร'' ก็มาเจาะประตูออกนำไปก่อนใน น.7 จากการหลุดขึ้นไปทางด้านซ้ายของ แลนดี้ คาร์ริชโซ่ กามาร่า แนวรุกผิวสีควบบอลจี้เข้าหาปากประตู ก่อนที่จะผ่านเข้ากลางมาที่ สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช ศูนย์หน้าตัวหลักจัดการกระโดดแปบอลด้วยขวาส่งบอลซุกก้นตาข่ายเข้าไปอย่างสวย งาม ส่งผลให้สระบุรี เอฟซีนำ 1-0
เกมของสระบุรี เอฟซียังดูดีอย่างต่อเนื่อง น.25 ก็มีลุ้นที่จะได้ประตูที่ 2 แบบจังๆ อีกครั้ง จากการยิงของ แลนดี้ คาร์ริชโซ่ กามาร่า แต่สุดท้ายบอลก็ยังหลุดถากเสาออกไป จนกระทั่ง น.34 กองเชียร์ขุนศึกก็มาได้เฮกันลั่นสนามลีโอ สเตเดี้ยมเป็นครั้งที่ 2 เมื่อ สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช แนวรุกตัวฉกาจหลุดกับดักล้ำหน้าก่อนที่เจ้าตัวจะแต่งบอลหลบนายด่านนราฯ ส่งบอลไหลเข้าซุกก้นตาข่ายแบบง่ายๆ และทำให้สกอร์ของสระบุรี เอฟซีขยับเป็น 2-0
ยิ่งเล่นยิ่งดีสำหรับสระบุรี เอฟซี และใน น.39 สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นโดยเฉพาะในจังหวะจบสกอร์ก็มาตะบันประตูที่ 3 ด้วยการวอลเลย์ลูกใบไม้ร่วงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงราวกับจรวดก่อนที่จะมุดเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสุดสวย ช่วยให้สระบุรี เอฟซีนำไกล 3-0 ที่สำคัญยังเป็นการทำแฮตทริกของ สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช ในเกมนี้อีกด้วย
นราธิวาส เอฟซีแม้จะโดนนำห่าง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ เมื่อใน น.40 ก็มาได้ประตูตีไข่แตก จากลูกฟรีคิกหน้าปากประตูของ มะยุรี แมะวะ เปิดยัดมาที่เสาสอง และเป็น มูฮัมหมัดไฟซาล บือซา ที่พุ่งชาร์จส่งบอลผ่านมือ จักรินทร์ บุญมี นายด่านสระบุรี เอฟซี ส่งผลให้นราฯ ไล่มาเป็น 1-3 ในช่วง 45 นาทีแรก
กลับมาลุยกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง ซึ่งยังคงเป็นสระบุรี เอฟซีที่เปิดเกมรุกเข้าใส่นราธิวาสเหมือนในครึ่งแรก น.54 ภานุวัฒน์ พรมเย็น มิดฟิลด์ตัวปั่นเกมของสระบุรีได้จังหวะยิงฟรีคิกเยื้องกรอบประตูด้านซ้าย บอลเกือบจะฮุกเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ยังดีที่นายด่านนราฯ ยังบินปัดออกหลังเอาไว้ได้ทัน
น.68 นราธิวาส เอฟซีตัดสินใจเปลี่ยนผู้รักษาประตูด้วยการส่ง เอ็ควาเร่ ชอง แฟร้งค์ นายด่านผิวสีลงไปเล่นแทน อาบูสาเหะ นอ จังหวะจบสกอร์ของนราธิวาส เอฟซีดูจะเริ่มจูนกันติดดังที่หวัง และใน น.75 ก็มาได้ประตูไล่ขึ้นมาแบบลมหายใจรดต้นคอ จากการยิงฟรีคิกหน้าปากประตูของ สมชาย หมัดเอียด ก่อนที่บอลจะไปแฉลบกำแพงเปลี่ยนทิศทางเข้าประตูชนิดที่ จักรินทร์ บุญมี หมดสิทธิ์ที่จะป้องกัน ทำให้นราธิวาส เอฟซีขยับมาเป็น 2-3
เกมทำท่าว่าจะเข้าทางนราธิวาส เอฟซี ที่โหมบุกเพื่อหวังจะเจาะประตูตีเสมอให้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องมาโดนทีเด็ดในจังหวะสวนกลับของสระบุรีเล่นงานในช่วงทดเจ็บ จากการยิงของ วาเรลี่ เอ็มโดมอน จบเกมสระบุรี เอฟซีเอาชนะนราธิวาส เอฟซี 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบชิง โดยรอพบคู่ชนะระหว่าง ปราจีนบุรี เอฟซี ที่จะพบกับ ระยอง เอฟซี ส่วน นราธิวาส เอฟซี ต้องตกไปเล่นลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้อย่างแน่นอนแล้ว
หลังจบเกม ธชตวัน ศรีปาน กุนซือสระบุรี เอฟซี เผยว่า ทีแรกก็เสียวเหมือนกันเพราะนำ 3-0 แต่ลูกทีมที่ดูจะแผ่วกันไปเองจนโดนเขาไล่ขึ้นมาเป็น 2-3 สุดท้ายเราก็เอาตัวรอดได้ ซึ่งจากผลเกมนี้ผมเองก็ยังมีความมั่นใจลึกๆ ว่าเราจะเป็นทีมสุดท้ายที่จะได้เล่น ด.1 ในปี 2011 เพราะผมมั่นใจในศักยภาพลูกทีมของผมครับ
ด้าน อุดมศักดิ์ ยีระเหม เผยว่า เราทำหน้าที่ได้ดีแล้ว หลังจากนี้คงต้องกลับไปเตรียมทีมเพื่อลงเล่นในศึก ด.2 ต่อไป ซึ่งเราจะลืมความผิดหวังจากปีนี้เพื่อไปสู่จุดเริ่มต้นที่ดีต่อไป
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
สระบุรี เอฟซี - จักรินทร์ บุญมี 7, ยุทธพงษ์ ศรีละคร 7, มนัส ตัดสุนทร 7 (แทน น.72 วาเรลี่ เอ็มโดมอน 6.5), ศตวรรษ มั่นประสิทธิ์ 7 (แทน น.85 กฤษณะ จำปาเรือง -), เอกภพ สนิทวงษ์ 7, สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช 8, ณรงค์ศักดิ์ สดใส 7, อัสนี อ่องลออ 7, สามารถ ปัญญา 7, ภานุวัฒน์ พรมเย็น 7, แลนดี้ คาร์ริชโซ่ กามาร่า 7.5
นราธิวาส เอฟซี - อาบูสาเหะ นอ 6 (แทน น.68 เอ็ควาเร่ ชอง แฟร้งค์ 6.5), มูฮัมหมัดซอบี อามะ 6, มูฮาหมัดฮากีกี มามะ 6, มะยุรี แมะวอ 6, มูฮัมหมัดไฟซาล บือซา 6, อัดดือนันต์ สาและรี 6 (แทน น.38 พงศ์ภพ นพมาตร 6), ไซบูดิน ดาโอะ 6, มูฮัมหมัดฟัดเดอลี บือซา 6, อัสรี กูโน 6, มูฮัมหมัดฮากีมีน มามะ 6, สมชาย หมาดเอียด 6
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช ศูนย์หน้าสระบุรี เอฟซีผู้ซัดแฮตทริกพร้อมพาต้นสังกัดเก็บชัยชนะ
ระยอง เอฟซี 6 - ปราจีนบุรี เอฟซี 4 (หลังเสมอในเวลา 90 นาที 1-1)
คู่ที่สอง เป็นการพบกันระหว่าง ขุนพลม้าลำพอง ระยอง เอฟซี พบกับ นกเหงือกพิฆาต ปราจีนบุรี เอฟซี โดยผลงานในการเพลย์ออฟครั้งที่ผ่านมา ระยอง เอฟซี แพ้ อาร์แบค เอฟซี สกอร์รวม 4-2- ส่วนทางด้าน ปราจีนบุรี เอฟซี แพ้ ม.รังสิต เจ.ดับบลิว. ด้วยสกอร์รวม 1-0
สำหรับสถานการณ์ความพร้อมด้านตัวผู้เล่น เกมนี้ โค้ชต๋อย ประภาร นาคพงษ์ กุนซือใหญ่ของ ปราจีนบุรี เอฟซี ส่งผู้เล่นตัวหลักลงสนามอย่างครบครันทั้ง ปิยะชาติ ศรีมาเรือง,
เจษฎา แก้วประสงค์, วิโรจน์ เพชรดอน ส่วนทางด้าน ระยอง เอฟซี โค้ชโม อภิชาติ โมสิกะ ก็ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเช่นกัน นำทัพมาโดย ศิลา และ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง, ที โชเบ้, สายฝน เกษมแสง และ ณัฐวุฒิ คำรินทร์ เริ่มเกมขึ้นมาเป็น ปราจีนบุรี เอฟซี ที่ได้ทักทายก่อนตั้งแต่ น.4 เมื่อทีมได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นทางฝั่งขวา ปิยะชาติ ศรีมาเรือง วางบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษเป็น เทวา พรมมา ที่โฉบเข้า มาโหม่งบริเวณเสาสอง แต่บอลดันกระดอนไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
รูปเกมในช่วง 15 นาทีแรกเป็นทางฝั่ง ปราจีนบุรี เอฟซี ที่เป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่ ระยอง เอฟซี ได้มากกว่า กระทั้ง น.28 ทีมมีโอกาสลุ้นอีกครั้งเมื่อ อภิชาติ อุ่นแอบ หลุดขึ้นไปริมเส้นฝั่งขวาก่อนจะพาบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาเน้นๆ แต่ว่าบอลยังเบาเกินไปทำให้ ที ฟาลู คว้าเอาไว้ได้
น.34 ปราจีนบุรี เอฟซีบุกอยู่เพลินๆ แต่แล้วเกือบเป็น ระยอง เอฟซี ที่เกือบจะได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อทีมได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ณัฐวุฒิ คำรินทร์ เปิดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ สุธี คำชา เทกตัวขึ้นโหม่งพร้อมกับเบียด วิโรจน์ เพชรดอน ล้มลงหน้าปากประตู แฟน ระยอง เฮกันเก้อคิดว่าลูกนี้จะได้ประตูขึ้นนำ แต่ ณัฏฐดนัย แพ่งสุภา ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นลูกชาร์จโกลไป ก่อน ทำให้ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
ช่วงท้ายเกมทั้งสองฝ่ายพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างสนุกหวังจะ พังประตูขึ้นนำให้ได้ ก่อนจะหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครสามารถพังประตูกันได้ หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก ระยอง เอฟซี ยังคงเสมออยู่กับ ปราจีนบุรี เอฟซี 0-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังเป็น ระยอง เอฟซี ที่เริ่มต้นได้ดีกว่า และใน น.48 ทีมมีโอกาสลุ้นพังประตูขึ้นนำเมื่อ ณัฐวุฒิ คำรินทร์ ไหลบอลให้ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ที่เติมเกมขึ้นมาจากกลางสนามได้ส่องไกลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่เจ้าตัวดันไปกดใต้ลูกเยอะเกินไปทำให้บอลลอยโด่งออกหลังประตูไป และใน น.55 ความพยายามของ ระยอง เอฟซี ก็ประสบผลมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อ ที ฟาลู ผู้รักษาประตูผิวสีของทีมเตะบอลยาวเข้าไปในแดนของ ปราจีนบุรี เป็น สุธี คำชา ที่โหม่งชงให้ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง หลุดเข้าไปแปบอลสวนทาง วิโรจน์ เพชรดอน ผู้รักษาประตู ปราจีนบุรี เอฟซี เข้าไปให้ทีมขึ้นนำไปก่อน 1-0
น.66 ปราจีนบุรี เอฟซีเป็นฝ่ายตั้งเกมรุกบุกเข้าหา ระยอง เอฟซี บ้าง เมื่อ ปิยะชาติ ศรีมาเรือง เปิดบอลยาวจากทางฝั่งซ้ายเข้าไปที่บริเวณเสาสองเป็น วุฒิกรณ์ พลลม ที่แตะบอลไปหน้าเขตโทษ เป็น เทวา พรมมา ที่ชาร์จบอลจ่อๆ ระยะไม่ถึง 5 หลาข้ามคานออกหลังประตูไปอย่างไม่น่าเชื่อ
น.75 ปราจีนบุรี เอฟซีมาได้ฟรีคิกระยะหวังผลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ปิยะชาติ ศรีมาเรือง ปั่นฟรีคิกลูกนี้โค้งทำท่าจะเสียบเสาสองอยู่แล้ว แต่เจอทีเด็ดของ ที ฟาลู บินมาปัดบอลออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ น.82 และแล้วเกมการแข่งขันคู่นี้ดูจะเป็นหนังม้วนยาวซะแล้ว เมื่อ ปราจีนบุรี มาตามตีเสมอได้สำเร็จจากลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวา ปิยะชาติ ศรีมาเรือง วางบอลยาวเข้าไปใน
เขตโทษให้ จารุวัฒน์ นามมูล ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังชาร์จบอลจ่อๆ เข้าไปให้ทีมตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองฝ่ายต่างเปิดเกมรุกเข้าแลกกันแบบไม่มีใครยอม ใคร แต่สุดท้ายผลก็จบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ หลังจบเกมทาง ส.จ. เดชา บุญธรรม ผู้จัดการทีม ระยอง เอฟซี วิ่งกรูเข้าไปต่อว่าการทำหน้าที่ของ นายณัฏฐดนัย แพ่งสุภา ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวถึงความไม่ชอบธรรมในการตัดสิน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องดวลกัน ที่ลูกจุดโทษอยู่ดี และเป็นทางด้าน ระยอง เอฟซี ที่แม่นเป้ามากกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 6-4 เอกรงค์ หวานอารมณ์ ผู้เล่นของ ปราจีนบุรี เป็นผู้เล่นคนเดียวของ ปราจีนบุรี ที่ยิง พลาด ทำให้ ระยอง เอฟซี ผ่านเข้าไปพบกับ สระบุรี เอฟซี ในนัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
โดยคู่ชิงฯ จะเป็นการพบกันระหว่าง สระบุรี เอฟซี กับ ระยอง เอฟซี ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม วันที่ 26 ม.ค. 54 เวลา 17.00 น. ต่อไป
หลังเกม อภิชาติ โมสิกะ กุนซือ ระยอง เอฟซี เผยว่า ''วันนี้ต้องขอชื่นชมว่าทางฝั่ง ปราจีนบุรี เอฟซี เล่นได้ดีกว่า แต่นักเตะเราเล่นกันด้วยความอดทน เพราะตลอดทั้งเกมเป็นที่ ทราบอยู่แล้วว่า เราโดนกดดันอย่างหนัก แต่ตนไม่ขอพูดว่าจากเรื่องอะไร หากใครเข้ามาชมก็จะรู้ดี การเจอกับ สระบุรี ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตนได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว''
ส่วนทางด้าน ประภาร นาคพงษ์ กุนซือใหญ่ ปราจีนบุรี เอฟซี เผยว่า ''ผู้เล่นทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว ผลแพ้วันนี้ตนไม่ได้ซีเรียสแต่อย่างใด เพราะทำใจไว้ล่วงหน้า ก่อนที่ทีมจะทำการแข่งขันแล้ว ส่วนในเรื่องแผนงานการทำทีมในฤดูกาลหน้าคงต้องหานักเตะฝีเท้าที่ดีที่สุด เข้ามาเล่น''
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ระยอง เอฟซี : ที ฟาลู 7, ที โชเบ้ 6, สายฝน เกษมแสง 6, ศิลา ศรีกำปัง 6, อดิศักดิ์ ศรีกำปัง 7, สหภพ เนาวบุตร 6, สุธี คำชา 7, ปกรณ์ มุกดา 6(ดูด้า ทอลลี่ 6), ทรงกรต วิเศษแก้ว 6 (ชโลธร
กาญจนศรี 5), ณัฐวุฒิ คำรินทร์ 6, ทักษิณ วิเศษสิงห์ 6
ปราจีนบุรี เอฟซี : วิโรจน์ เพชรดอน 6, ปิยะชาติ ศรีมาเรือง 6, ธนศักดิ์ ศรีใส 6, เอกลักษณ์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา 6, เทวา พรมมา 6 (จารุวัฒน์ นามมูล 6), วุฒิกรณ์ พลลม 6, อภิชาติ อุ่นแอบ 6, เอกรงค์ หวานอารมณ์ 6, ปองเทพ มุลาลี 6 (ณรงค์ศักดิ์ เล้าพาณิชวัฒนา 5), วัชรพงษ์ วงษ์ศรีแก้ว 6, ไตรรงค์ แก่นจันทร์ 5 (จิระเดช แสงสง่า 5), เจษฎา แก้วประสงค์ 6
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ผู้เล่น ของ ระยอง เอฟซี
ศึกเพลย์ออฟเพื่อหาทีมที่ 18 ที่จะได้สิทธิ์ร่วมสังฆกรรมในศึกลีกดิวิชั่น 1 ประจำฤดูกาล 2011 ซึ่งเป็นการนำ 4 ทีมที่แพ้ในรอบเพลย์ออฟที่ผ่านมา มาแข่งขันในระบบแพ้ตกรอบ ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม ทั้ง 4 ทีมก็ได้ฤกษ์ลงสนามแข่งขันกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สระบุรี เอฟซี 4 - นราธิวาส เอฟซี 2
คู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง ''ขุนศึก'' สระบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 แห่งศึก ชปล.ด.2 ซึ่งพลาดท่าแพ้สุพรรณบุรี เอฟซีในรอบเพลย์ออฟด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-3 พบกับ ''กอและพิฆาต'' นราธิวาส เอฟซี ทีมบ๊วยประจำศึก ด.1 ที่แพ้บางกอก เอฟซี ในรอบเพลย์ออฟ 2 นัดสกอร์รวม 2-11
เกมนี้ ''ขุนศึก'' สระบุรี เอฟซี นำมาโดย ''วีระพล อดิเรกสาร'' ประธานสโมสรสระบุรี เอฟซี พร้อมด้วย ''โค้ชแบน'' ธชตวัน ศรีปาน กุนซือใหญ่ ก็สามารถจัดผู้เล่นชุดใหญ่ได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช, แลนดี้ คาร์ริชโซ่ กามาร่า รวมถึง ภานุวัฒน์ พรมเย็น
ด้าน ''เรือกอและพิฆาต'' นราธิวาส เอฟซี ภายใต้การคุมทัพของ อุดมศักดิ์ ยีระเหม กุนซือใหญ่ที่ยังพึ่งบริการลูกทีมตัวหลักอย่าง มูฮัมหมัดไฟซาล บือซา, มูฮาหมัดฮากีกี มามะ และ มูฮัมหมัดฟัดเดอลี บือซา เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกได้เพียงไม่ทันไร ลูกทีมของ ''วีระพล อดิเรกสาร'' ก็มาเจาะประตูออกนำไปก่อนใน น.7 จากการหลุดขึ้นไปทางด้านซ้ายของ แลนดี้ คาร์ริชโซ่ กามาร่า แนวรุกผิวสีควบบอลจี้เข้าหาปากประตู ก่อนที่จะผ่านเข้ากลางมาที่ สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช ศูนย์หน้าตัวหลักจัดการกระโดดแปบอลด้วยขวาส่งบอลซุกก้นตาข่ายเข้าไปอย่างสวย งาม ส่งผลให้สระบุรี เอฟซีนำ 1-0
เกมของสระบุรี เอฟซียังดูดีอย่างต่อเนื่อง น.25 ก็มีลุ้นที่จะได้ประตูที่ 2 แบบจังๆ อีกครั้ง จากการยิงของ แลนดี้ คาร์ริชโซ่ กามาร่า แต่สุดท้ายบอลก็ยังหลุดถากเสาออกไป จนกระทั่ง น.34 กองเชียร์ขุนศึกก็มาได้เฮกันลั่นสนามลีโอ สเตเดี้ยมเป็นครั้งที่ 2 เมื่อ สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช แนวรุกตัวฉกาจหลุดกับดักล้ำหน้าก่อนที่เจ้าตัวจะแต่งบอลหลบนายด่านนราฯ ส่งบอลไหลเข้าซุกก้นตาข่ายแบบง่ายๆ และทำให้สกอร์ของสระบุรี เอฟซีขยับเป็น 2-0
ยิ่งเล่นยิ่งดีสำหรับสระบุรี เอฟซี และใน น.39 สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นโดยเฉพาะในจังหวะจบสกอร์ก็มาตะบันประตูที่ 3 ด้วยการวอลเลย์ลูกใบไม้ร่วงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงราวกับจรวดก่อนที่จะมุดเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสุดสวย ช่วยให้สระบุรี เอฟซีนำไกล 3-0 ที่สำคัญยังเป็นการทำแฮตทริกของ สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช ในเกมนี้อีกด้วย
นราธิวาส เอฟซีแม้จะโดนนำห่าง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ เมื่อใน น.40 ก็มาได้ประตูตีไข่แตก จากลูกฟรีคิกหน้าปากประตูของ มะยุรี แมะวะ เปิดยัดมาที่เสาสอง และเป็น มูฮัมหมัดไฟซาล บือซา ที่พุ่งชาร์จส่งบอลผ่านมือ จักรินทร์ บุญมี นายด่านสระบุรี เอฟซี ส่งผลให้นราฯ ไล่มาเป็น 1-3 ในช่วง 45 นาทีแรก
กลับมาลุยกันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลัง ซึ่งยังคงเป็นสระบุรี เอฟซีที่เปิดเกมรุกเข้าใส่นราธิวาสเหมือนในครึ่งแรก น.54 ภานุวัฒน์ พรมเย็น มิดฟิลด์ตัวปั่นเกมของสระบุรีได้จังหวะยิงฟรีคิกเยื้องกรอบประตูด้านซ้าย บอลเกือบจะฮุกเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ยังดีที่นายด่านนราฯ ยังบินปัดออกหลังเอาไว้ได้ทัน
น.68 นราธิวาส เอฟซีตัดสินใจเปลี่ยนผู้รักษาประตูด้วยการส่ง เอ็ควาเร่ ชอง แฟร้งค์ นายด่านผิวสีลงไปเล่นแทน อาบูสาเหะ นอ จังหวะจบสกอร์ของนราธิวาส เอฟซีดูจะเริ่มจูนกันติดดังที่หวัง และใน น.75 ก็มาได้ประตูไล่ขึ้นมาแบบลมหายใจรดต้นคอ จากการยิงฟรีคิกหน้าปากประตูของ สมชาย หมัดเอียด ก่อนที่บอลจะไปแฉลบกำแพงเปลี่ยนทิศทางเข้าประตูชนิดที่ จักรินทร์ บุญมี หมดสิทธิ์ที่จะป้องกัน ทำให้นราธิวาส เอฟซีขยับมาเป็น 2-3
เกมทำท่าว่าจะเข้าทางนราธิวาส เอฟซี ที่โหมบุกเพื่อหวังจะเจาะประตูตีเสมอให้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องมาโดนทีเด็ดในจังหวะสวนกลับของสระบุรีเล่นงานในช่วงทดเจ็บ จากการยิงของ วาเรลี่ เอ็มโดมอน จบเกมสระบุรี เอฟซีเอาชนะนราธิวาส เอฟซี 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบชิง โดยรอพบคู่ชนะระหว่าง ปราจีนบุรี เอฟซี ที่จะพบกับ ระยอง เอฟซี ส่วน นราธิวาส เอฟซี ต้องตกไปเล่นลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้อย่างแน่นอนแล้ว
หลังจบเกม ธชตวัน ศรีปาน กุนซือสระบุรี เอฟซี เผยว่า ทีแรกก็เสียวเหมือนกันเพราะนำ 3-0 แต่ลูกทีมที่ดูจะแผ่วกันไปเองจนโดนเขาไล่ขึ้นมาเป็น 2-3 สุดท้ายเราก็เอาตัวรอดได้ ซึ่งจากผลเกมนี้ผมเองก็ยังมีความมั่นใจลึกๆ ว่าเราจะเป็นทีมสุดท้ายที่จะได้เล่น ด.1 ในปี 2011 เพราะผมมั่นใจในศักยภาพลูกทีมของผมครับ
ด้าน อุดมศักดิ์ ยีระเหม เผยว่า เราทำหน้าที่ได้ดีแล้ว หลังจากนี้คงต้องกลับไปเตรียมทีมเพื่อลงเล่นในศึก ด.2 ต่อไป ซึ่งเราจะลืมความผิดหวังจากปีนี้เพื่อไปสู่จุดเริ่มต้นที่ดีต่อไป
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
สระบุรี เอฟซี - จักรินทร์ บุญมี 7, ยุทธพงษ์ ศรีละคร 7, มนัส ตัดสุนทร 7 (แทน น.72 วาเรลี่ เอ็มโดมอน 6.5), ศตวรรษ มั่นประสิทธิ์ 7 (แทน น.85 กฤษณะ จำปาเรือง -), เอกภพ สนิทวงษ์ 7, สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช 8, ณรงค์ศักดิ์ สดใส 7, อัสนี อ่องลออ 7, สามารถ ปัญญา 7, ภานุวัฒน์ พรมเย็น 7, แลนดี้ คาร์ริชโซ่ กามาร่า 7.5
นราธิวาส เอฟซี - อาบูสาเหะ นอ 6 (แทน น.68 เอ็ควาเร่ ชอง แฟร้งค์ 6.5), มูฮัมหมัดซอบี อามะ 6, มูฮาหมัดฮากีกี มามะ 6, มะยุรี แมะวอ 6, มูฮัมหมัดไฟซาล บือซา 6, อัดดือนันต์ สาและรี 6 (แทน น.38 พงศ์ภพ นพมาตร 6), ไซบูดิน ดาโอะ 6, มูฮัมหมัดฟัดเดอลี บือซา 6, อัสรี กูโน 6, มูฮัมหมัดฮากีมีน มามะ 6, สมชาย หมาดเอียด 6
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ สมบูรณ์ ทรัพย์พานิช ศูนย์หน้าสระบุรี เอฟซีผู้ซัดแฮตทริกพร้อมพาต้นสังกัดเก็บชัยชนะ
ระยอง เอฟซี 6 - ปราจีนบุรี เอฟซี 4 (หลังเสมอในเวลา 90 นาที 1-1)
คู่ที่สอง เป็นการพบกันระหว่าง ขุนพลม้าลำพอง ระยอง เอฟซี พบกับ นกเหงือกพิฆาต ปราจีนบุรี เอฟซี โดยผลงานในการเพลย์ออฟครั้งที่ผ่านมา ระยอง เอฟซี แพ้ อาร์แบค เอฟซี สกอร์รวม 4-2- ส่วนทางด้าน ปราจีนบุรี เอฟซี แพ้ ม.รังสิต เจ.ดับบลิว. ด้วยสกอร์รวม 1-0
สำหรับสถานการณ์ความพร้อมด้านตัวผู้เล่น เกมนี้ โค้ชต๋อย ประภาร นาคพงษ์ กุนซือใหญ่ของ ปราจีนบุรี เอฟซี ส่งผู้เล่นตัวหลักลงสนามอย่างครบครันทั้ง ปิยะชาติ ศรีมาเรือง,
เจษฎา แก้วประสงค์, วิโรจน์ เพชรดอน ส่วนทางด้าน ระยอง เอฟซี โค้ชโม อภิชาติ โมสิกะ ก็ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเช่นกัน นำทัพมาโดย ศิลา และ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง, ที โชเบ้, สายฝน เกษมแสง และ ณัฐวุฒิ คำรินทร์ เริ่มเกมขึ้นมาเป็น ปราจีนบุรี เอฟซี ที่ได้ทักทายก่อนตั้งแต่ น.4 เมื่อทีมได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นทางฝั่งขวา ปิยะชาติ ศรีมาเรือง วางบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษเป็น เทวา พรมมา ที่โฉบเข้า มาโหม่งบริเวณเสาสอง แต่บอลดันกระดอนไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
รูปเกมในช่วง 15 นาทีแรกเป็นทางฝั่ง ปราจีนบุรี เอฟซี ที่เป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่ ระยอง เอฟซี ได้มากกว่า กระทั้ง น.28 ทีมมีโอกาสลุ้นอีกครั้งเมื่อ อภิชาติ อุ่นแอบ หลุดขึ้นไปริมเส้นฝั่งขวาก่อนจะพาบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาเน้นๆ แต่ว่าบอลยังเบาเกินไปทำให้ ที ฟาลู คว้าเอาไว้ได้
น.34 ปราจีนบุรี เอฟซีบุกอยู่เพลินๆ แต่แล้วเกือบเป็น ระยอง เอฟซี ที่เกือบจะได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อทีมได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ณัฐวุฒิ คำรินทร์ เปิดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ สุธี คำชา เทกตัวขึ้นโหม่งพร้อมกับเบียด วิโรจน์ เพชรดอน ล้มลงหน้าปากประตู แฟน ระยอง เฮกันเก้อคิดว่าลูกนี้จะได้ประตูขึ้นนำ แต่ ณัฏฐดนัย แพ่งสุภา ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นลูกชาร์จโกลไป ก่อน ทำให้ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
ช่วงท้ายเกมทั้งสองฝ่ายพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างสนุกหวังจะ พังประตูขึ้นนำให้ได้ ก่อนจะหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครสามารถพังประตูกันได้ หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก ระยอง เอฟซี ยังคงเสมออยู่กับ ปราจีนบุรี เอฟซี 0-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังเป็น ระยอง เอฟซี ที่เริ่มต้นได้ดีกว่า และใน น.48 ทีมมีโอกาสลุ้นพังประตูขึ้นนำเมื่อ ณัฐวุฒิ คำรินทร์ ไหลบอลให้ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ที่เติมเกมขึ้นมาจากกลางสนามได้ส่องไกลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่เจ้าตัวดันไปกดใต้ลูกเยอะเกินไปทำให้บอลลอยโด่งออกหลังประตูไป และใน น.55 ความพยายามของ ระยอง เอฟซี ก็ประสบผลมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อ ที ฟาลู ผู้รักษาประตูผิวสีของทีมเตะบอลยาวเข้าไปในแดนของ ปราจีนบุรี เป็น สุธี คำชา ที่โหม่งชงให้ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง หลุดเข้าไปแปบอลสวนทาง วิโรจน์ เพชรดอน ผู้รักษาประตู ปราจีนบุรี เอฟซี เข้าไปให้ทีมขึ้นนำไปก่อน 1-0
น.66 ปราจีนบุรี เอฟซีเป็นฝ่ายตั้งเกมรุกบุกเข้าหา ระยอง เอฟซี บ้าง เมื่อ ปิยะชาติ ศรีมาเรือง เปิดบอลยาวจากทางฝั่งซ้ายเข้าไปที่บริเวณเสาสองเป็น วุฒิกรณ์ พลลม ที่แตะบอลไปหน้าเขตโทษ เป็น เทวา พรมมา ที่ชาร์จบอลจ่อๆ ระยะไม่ถึง 5 หลาข้ามคานออกหลังประตูไปอย่างไม่น่าเชื่อ
น.75 ปราจีนบุรี เอฟซีมาได้ฟรีคิกระยะหวังผลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ปิยะชาติ ศรีมาเรือง ปั่นฟรีคิกลูกนี้โค้งทำท่าจะเสียบเสาสองอยู่แล้ว แต่เจอทีเด็ดของ ที ฟาลู บินมาปัดบอลออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ น.82 และแล้วเกมการแข่งขันคู่นี้ดูจะเป็นหนังม้วนยาวซะแล้ว เมื่อ ปราจีนบุรี มาตามตีเสมอได้สำเร็จจากลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวา ปิยะชาติ ศรีมาเรือง วางบอลยาวเข้าไปใน
เขตโทษให้ จารุวัฒน์ นามมูล ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังชาร์จบอลจ่อๆ เข้าไปให้ทีมตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองฝ่ายต่างเปิดเกมรุกเข้าแลกกันแบบไม่มีใครยอม ใคร แต่สุดท้ายผลก็จบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ หลังจบเกมทาง ส.จ. เดชา บุญธรรม ผู้จัดการทีม ระยอง เอฟซี วิ่งกรูเข้าไปต่อว่าการทำหน้าที่ของ นายณัฏฐดนัย แพ่งสุภา ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวถึงความไม่ชอบธรรมในการตัดสิน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องดวลกัน ที่ลูกจุดโทษอยู่ดี และเป็นทางด้าน ระยอง เอฟซี ที่แม่นเป้ามากกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 6-4 เอกรงค์ หวานอารมณ์ ผู้เล่นของ ปราจีนบุรี เป็นผู้เล่นคนเดียวของ ปราจีนบุรี ที่ยิง พลาด ทำให้ ระยอง เอฟซี ผ่านเข้าไปพบกับ สระบุรี เอฟซี ในนัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
โดยคู่ชิงฯ จะเป็นการพบกันระหว่าง สระบุรี เอฟซี กับ ระยอง เอฟซี ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม วันที่ 26 ม.ค. 54 เวลา 17.00 น. ต่อไป
หลังเกม อภิชาติ โมสิกะ กุนซือ ระยอง เอฟซี เผยว่า ''วันนี้ต้องขอชื่นชมว่าทางฝั่ง ปราจีนบุรี เอฟซี เล่นได้ดีกว่า แต่นักเตะเราเล่นกันด้วยความอดทน เพราะตลอดทั้งเกมเป็นที่ ทราบอยู่แล้วว่า เราโดนกดดันอย่างหนัก แต่ตนไม่ขอพูดว่าจากเรื่องอะไร หากใครเข้ามาชมก็จะรู้ดี การเจอกับ สระบุรี ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตนได้เตรียมการรับมือไว้แล้ว''
ส่วนทางด้าน ประภาร นาคพงษ์ กุนซือใหญ่ ปราจีนบุรี เอฟซี เผยว่า ''ผู้เล่นทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว ผลแพ้วันนี้ตนไม่ได้ซีเรียสแต่อย่างใด เพราะทำใจไว้ล่วงหน้า ก่อนที่ทีมจะทำการแข่งขันแล้ว ส่วนในเรื่องแผนงานการทำทีมในฤดูกาลหน้าคงต้องหานักเตะฝีเท้าที่ดีที่สุด เข้ามาเล่น''
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ระยอง เอฟซี : ที ฟาลู 7, ที โชเบ้ 6, สายฝน เกษมแสง 6, ศิลา ศรีกำปัง 6, อดิศักดิ์ ศรีกำปัง 7, สหภพ เนาวบุตร 6, สุธี คำชา 7, ปกรณ์ มุกดา 6(ดูด้า ทอลลี่ 6), ทรงกรต วิเศษแก้ว 6 (ชโลธร
กาญจนศรี 5), ณัฐวุฒิ คำรินทร์ 6, ทักษิณ วิเศษสิงห์ 6
ปราจีนบุรี เอฟซี : วิโรจน์ เพชรดอน 6, ปิยะชาติ ศรีมาเรือง 6, ธนศักดิ์ ศรีใส 6, เอกลักษณ์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา 6, เทวา พรมมา 6 (จารุวัฒน์ นามมูล 6), วุฒิกรณ์ พลลม 6, อภิชาติ อุ่นแอบ 6, เอกรงค์ หวานอารมณ์ 6, ปองเทพ มุลาลี 6 (ณรงค์ศักดิ์ เล้าพาณิชวัฒนา 5), วัชรพงษ์ วงษ์ศรีแก้ว 6, ไตรรงค์ แก่นจันทร์ 5 (จิระเดช แสงสง่า 5), เจษฎา แก้วประสงค์ 6
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อดิศักดิ์ ศรีกำปัง ผู้เล่น ของ ระยอง เอฟซี