ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตัดปัญหาเปาล้มไม่เผยชื่อก่อนเตะ

"บังยี" วรวีร์ มะกูดี กระโดดลงมาสะสางปัญหาของผู้ตัดสินเอง ด้วยการตั้งคณะกรรมการที่จะทำหน้าที่ ในการจัดเชิ้ตดำลงสนาม กับประเมินผลไปในตัว พร้อมเชิญ อ.สุโข วุฒิโชติ อดีตฟีฟ่าเป็นที่ปรึกษา ฝั่ง อ.ชูชัย บัวบูชา เสนอ 3 แนวทางแก้ปัญหา แต่ที่แน่ๆ ต่อไปนี้ เชิ้ตดำจะไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะได้ตัดสินคู่ไหน


เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย "บิ๊กเปี๊ยก" นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก และ อ.ชูชัย บัวบูชา ประธานผู้ตัดสิน ได้ประชุมหารือในเรื่องของการเตรียมความพร้อม สำหรับการใช้ผู้ตัดสินสำหรับศึก "สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011"
โดยมติที่ประชุมได้บทสรุปหลักๆ มี 3 ข้อ คือมติแรก จะให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อคัดเลือกผู้ตัดสิน 1 ชุดเพื่อทำหน้าที่ในการประเมินผู้ตัดสินด้วย โดยคณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วย คณะกรรมการที่มาจากสมาคมฟุตบอลฯ 4 คน บวกกับคณะกรรมการที่เป็นคนกลางอีก 4 คน
เพื่อให้การทำงานเกิดความยุติธรรม โดยทั้งหมดจะอยู่ในความดูแลของนายวรวีร์ มะกูดี,นายองอาจ ก่อสินค้า, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง, นายวิมล กาญจนะ, อ.ชูชัย บัวบูชา และ นายปรัชญา เพิ่มพานิช ซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลโดยตำแหน่งอีกต่างหาก




ไม่เปิดเผยชื่อเปาล่วงหน้าก่อนทำหน้าที่

นอกจากนั้นยังเสนอ 2 แนวทางในการลงทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน โดยรักษาการนายกสมาคมฟุตบอลฯ เผยต่อว่า สำหรับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการจัดแมตช์ และประเมินผู้ตัดสินนั้น ตนก็ได้เสนอแนวทางไว้ 2 ข้อด้วยกัน คือ
1.จะนำระบบการจัดผู้ตัดสินแบบยุโรปมาใช้คือ จะไม่มีการเปิดเผยให้ผู้ตัดสินได้ทราบก่อนจนกว่า จะถึงวันแข่งขัน โดยผู้ตัดสินทุกคน จะต้องมารวมตัวกันที่สมาคมฯ หลังจากนั้นจะมีการประกาศให้ทุกคนทราบว่า จะต้องไปทำหน้าที่ที่สนามไหน หลังจากนั้นแยกย้ายกันไปยังสนามต่างๆ
หรือ 2.จะเป็นการพิจารณาโดยคณะกรรมชุดดังกล่าว เพื่อดูความเหมาะสมในการจัดผู้ตัดสินลงไปทำหน้าที่ ซึ่งคือรูปแบบที่ทำกันมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาการจัดแมตช์ผู้ตัดสินมีเพียงคนเดียวที่ทำ หน้าที่คือ อ.มงคล รุ่งคล้าย แต่ปีนี้ จะให้คณะกรรมการทั้งชุดเป็นคนเลือก ซึ่งทั้ง 2 แนวทางนั้นนายกสมาคมฟุตบอลฯ ยังไม่ได้สรุปว่าจะใช้แนวทางใดแนวทางหนึ่ง หรืออาจจะนำทั้ง 2 แนวทางมาใช้ร่วมกันก็เป็นได้"


เสนอ ผอ.ผู้ตัดสิน ลุยงานเต็มเวลา

ขณะเดียวกัน ยังจะมีการเตรียมที่จะเฟ้นหาผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการผู้ ตัดสิน โดยทางสมาคมฯ จะทำการว่าจ้างเซ็นสัญญาแบบเต็มเวลา เพื่อมาทำหน้าที่ในการดูแลการบริหารงานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้ตัดสิน ของสมาคมฯ ไม่ว่าจะเป็นการประสานงาน เรื่องธุรการต่างๆ
โดยตำแหน่ง ผอ.ผู้ตัดสินนี้ จะทำงานอยู่ภายใต้สมาคมฟุตบอลฯ ส่วนเรื่องของบุคคล ที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ ตนจะปรึกษากับสภากรรมการอีกครั้ง เพื่อให้ได้ผู้ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งน่าจะทราบกันในสัปดาห์นี้เช่นกัน"
ส่วนเรื่องสุดท้าย ที่ทางสมาคมฯ จะเร่งดำเนินการ คือการจัดทำห้องแล็บประเมินผู้ตัดสิน เพื่อเป็นการวิเคราะห์การทำงานของผู้ตัดสินในแต่ละสัปดาห์ โดยเบื้องต้นวางไว้ว่าในทุกๆ วันจันทร์ หลังจากการแข่งขันฟุตบอลประจำสัปดาห์ จะต้องมีการประเมินและวิเคราะห์ที่ห้องแล็บแห่งนี้
เพื่อหาข้อบกพร่องในการทำหน้าที่และนำมาปรับปรุงแก้ไข โดยห้องแล็บดังกล่าวก็จะไปทำกันที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติหนองจอก สมาคมฟุตบอลฯ เพราะมีความพร้อมในเรื่องของสถานที่อยู่แล้ว"


ทาบ อ.สุโข อดีตเปาฟีฟ่า เป็นที่ปรึกษา

นอกจากนี้ "บังยี" ได้เผยอีกด้วยว่าตอนนี้ตนได้ทำการทาบทาม อ.สุโข วุฒิโชติ อดีตผู้ตัดสินระดับฟีฟ่า ตอนนี้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา จ.สมุทรปราการ อยู่นั้น เพื่อมาเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการชุดดังกล่าวด้วย
เนื่องจาก อ.สุโข เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งน่าจะทำให้การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ขึ้น ซึ่งตนมั่นใจว่าเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่จะทำให้การทำหน้าที่ของผู้ ตัดสินนั้นดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องยุติธรรมและโปร่งใสเพื่อลบข้อครหาที่เกิดขึ้น ให้ได้" นายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวทิ้งท้าย


อ.ชูชัยเสนอ 3 แนวทางพัฒนาเปาไทย

ด้าน อ.ชูชัย บัวบูชา ในฐานะประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน ได้เสนอถึงแนวทางในการพัฒนาผู้ตัดสินในฤดูกาลนี้ด้วยว่า ในฤดูกาลใหม่ที่จะถึงนี้การพัฒนาผู้ตัดสิน จะยังคงทำกันอย่างต่อเนื่องและจะเข้มข้นกว่าเดิมด้วย
โดยแนวทางดังกล่าวนั้นก็มีอยู่ 3 ข้อด้วยกัน คือ 1.ในฤดูกาลใหม่จะมีการแบ่งผู้ตัดสินออกเป็น 9 กลุ่ม โดยแต่ล่ะกลุ่มจะมี ผู้ตัดสิน และผู้ช่วยผู้ตัดสิน โดยที่จะแยกกันคนละชุดอย่างชัดเจน และจะไม่ทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกันเหมือนปีที่ผ่านมา" เรื่องของการจัดกลุ่มผู้ตัดสินนี้ จะเริ่มจากไทยพรีเมียร์ลีกก่อน และถ้าประสบความสำเร็จ จะนำไปใช้ใน ด.1 และ ด.2 ต่อไปตามลำดับ


เช็กสมรรถภาพเข้ม 2 วันก่อนลงเป่า

ประธานผู้ตัดสิน เผยทิ้งท้ายอีกว่า "จะมีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้ตัดสินให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในเรื่องนี้ทางคณะกรรมการของตน ดำเนินการตรวจเช็กสมรรถภาพร่างกายอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน รวมถึงในวันที่ 2-4 ก.พ.นี้ จะมีการจัดอบรมผู้ตัดสินของสมาคมกว่า 100-120 คน ที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อำเภอมวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมครั้งสุดท้ายก่อนทำหน้าที่ในฤดูกาล 2011"
พร้อมกันนั้น เรื่องของการทำหน้าที่ของผู้ประเมินผู้ตัดสิน เราจะมีการสัมมนาผู้ประเมินผู้ตัดสินเหมือนกัน ก่อนเปิดฤดูกาล โดยการประเมินการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินนั้นเราจะทำกันทั้งในระหว่างการแข่ง ขัน และจะไปสรุปเพื่อหาข้อบกพร่องต่างๆ นำมาแก้ไขในช่วงพักเลก และแนวทางในการพัฒนาผู้ตัดสิน หวังว่าในฤดูกาลหน้าจะไม่มีปัญหาเรื่องผู้ตัดสินเกิดขึ้นอีก เหมือนในฤดูกาลที่ผ่านมา

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์

สวัสดีปีใหม่ไทย เทศกาลสงสงกรานต์ หลายทีมในลีกอาชีพใด้พักซ้อม 2-3 วัน แต่มีทีมเดียวคือ จุฬา ยูไนเต็ด ซ้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กุนซือใหญ่ชาวแซมบ้า โจเซ่ แฟร์ไรร่า สุดเฮี้ยบ สั่งนักเตะซ้อมตะลุยช่วงสงกรานต์เต็มที่แบบไม่มีหยุดสงกรานต์ อีกทีมที่หยุดวันเดียวคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด หวั่นนักเตะกลับมาหมดสภาพ สั่งให้พักแค่ 13 เม.ย. วันเดียว นักเตะอาชีพเป็นงานที่แปลกกว่าอาชีพอื่นมากเลยครับ เทศกาลสงกรานต์นี้ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ rich_t

ทีโอทีขึ้นป้ายขายกบไซเบอร์อย่างต่ำ1ล้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลในศึก ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ช่วงพักเบรกให้ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ 2 นัด โดย ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 ของตาราง จากการออกสตาร์ต 3 นัดแรก ได้ตั้งราคาขายนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมดีกรีทีมชาติไทย "กบ ไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีม ที่ถือเป็นนักเตะแม่เหล็กประจำทีมอย่างแท้จริง ที่ราคาถึง 1 ล้านกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมทีโอที กล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าเราคิดจะขาย สุเชาว์ นุชนุ่ม เพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เป็นกำลังหลักสำคัญของเราในขณะนี้ แต่หากมีทีมไหนต้องการอยากได้ตัวเขาไปเล่นให้จริงๆ ในฟุตบอลอาชีพ โดยเราตั้งราคาขายไว้ที่หลัก 1 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเล่นกับเรามานาน เรื่องฝีเท้าการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีดีกรีติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง" "หากถามผมว่า อยากจะขายให้ทีมในประเทศหรือไม่ คงไม่อยากขาย แต่ต้องการให้เขามีโอกาสได้ไปเล่นกับลีกต่างชาติมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสลีกของสิงคโปร์หรือวีลีกของเวียดนาม เพื่อมีโอกาสได้ไปเก็บเงินสักก้

ชัยนาทเปิดตัวชุดแหวกแนวทุ่มงบ200ล้านเปลี่ยนชื่อหวังติดท็อปไฟ

ชัยนาท ฮอร์นบิล ในชื่อใหม่เปิดตัวชุดแข่งขัน 2014 สุดฉีกแนวพร้อมประกาศงบ 200 ล้านบาทเทียบเท่าบิ๊กทีมหวังผฝาดท็อปไฟว์ของตาราง สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล หรือ ชัยนาท เอฟซี เดิม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมฤดูกาล 2014สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (15 ก.พ.) โดยมี อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสรเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ชัยนาท ตัดสินใจนำคำว่า ฮอร์นบิล (hornbill) ซึ่งแปลว่านกเงือกสัญลักษณ์ประจำสโมสรและจังหวัดมาต่อท้ายชื่อ พร้อมกับประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 200 ล้านบาท เทียบเท่ากับสโมสรชั้นนำ โดย "เสี่ยแฮงค์" ประธานสโมสรหวังพาทีมจบ 5 อันดับแรกของตารางไทยพรีเมียร์ลีก "ทีมชัยนาทในปีนี้ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงทีม ไม่ว่าจะเป็นการส่วนซื้อตัวผู้เล่นผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม เพื่อให้สโมสรมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเป้าหมายอย่างต่ำต้องติดท็อปเท็นของตาราง แต่จะให้ดีต้องติด 1 ใน 5 ถ้าทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ" สุรชัย จตุรภั