ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บิ๊กเชฐยันทำถูกขั้นตอนสิทธิทำทีมท่าเรือไม่พลิกแน่


"บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี มั่นใจ ที่ผ่านมาในการบริหารทีมดังคลองเตย เป็นไปอย่างถูกต้อง ได้สิทธิ์ในการทำทีมอย่างชอบธรรม จากบอร์ดบริหารและ ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อ 2 ปีก่อนมา ยันเมื่อปี 52 บอร์ดบริหารการท่าเรือเป็นคนสั่งเองให้ไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เพื่อบริหารทีมอย่างถูกต้อง มั่นใจสิทธิ์ในการส่งทีมอยู่กับ บ.สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทยจำกัด แน่นอน

"บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอล ออกมากล่าวกับสยามกีฬา ถึงกรณีที่ สมาคมฟุตบอลจะพิจารณาสิทธิในการส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทย พรีเมียร์ลีก ของทีม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ในฤดูกาลใหม่ ที่จะเริ่มเปิดสนามตั้งแต่ 12 ก.พ. 54 เป็นต้นไป
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสืออ้างสิทธิในการส่งทีมมายังสมาคมฟุตบอลว่า เราจะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวกันในวันศุกร์ที่ 28 ม.ค. 54 นี้ เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม สมาคมฟุตบอลฯ

โดยจะพิจารณาจากหลักฐานของทั้ง 2 ฝั่งอย่างยุติธรรมอย่างแน่นอน ส่วนจะลงเอยเหมือนกรณีของทีมราชนาวี กับ ทีโอที ที่สมาคมฟุตบอลฯ ได้ตัดสินให้ราชนาวีสโมสร กับ บมจ. ทีโอที ได้สิทธิทำทีมหรือไม่ ผมไม่สามารถตอบได้ต้องพิจารณาข้อมูลจากหลักฐานต่างๆ ให้ถูกต้อง ผมพูดได้แต่เพียงเท่านี้
ซึ่งการพิจารณาครั้งนี้สมาคมฟุตบอลได้เชิญทั้ง 2 ฝ่ายคือตัวแทนจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย กับตัวแทน บ.สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย จำกัด มาชี้แจงแล้วก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง "บิ๊กเชฐ" นายพิเชฐ มั่นคง ประธาน บ.สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย จำกัด ที่เป็นผู้บริการจัดการทีมมาก่อนหน้านี้เป็นเวลา 2 ปีอย่างถูกต้อง โดยได้มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลไว้กับ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด มาตั้งแต่ปี 52 ที่ผ่านมาก่อนได้รับคำตอบมาว่า
ผมไม่ทราบเรื่องเลยนะว่าใครเป็นคนยื่นเรื่องทวงสิทธิในการทำทีมไป แต่สิ่งที่ผมสามารถบอกได้ คือเมื่อต้นปี 52 ก่อนที่ไทยลีกครั้งที่ 13 หรือไทยพรีเมียร์ลีก 2009 จะเริ่มต้นซึ่งปีนั้น บ.ไทยพรีเมียร์ลีก โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง รับนโยบายมาจากสมาคมฟุตบอล ที่ต้องการปฏิรูปยกเครื่องสโมสรฟุตบอลของไทย ให้เป็นสโมสรอาชีพตามนโยบายของเอเอฟซีนั้น ได้แจ้งให้ทุกสโมสร ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
ปีนั้นผมเองที่เป็นประธานกรรมการสโมสรฟุตบอลของการท่าเรือแห่งประเทศ ไทย และได้เข้ามาดูแลทีมในฐานะประธานสโมสร โดยเป็นรองผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย อยู่ด้วย ได้นำเรื่องเสนอบอร์ดบริหารการท่าเรือ ก่อนที่บอร์ดบริหารของการท่าเรือ จะอนุมัติให้ผมดำเนินการไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เพื่อบริหารทีมส่งเข้าร่วมแข่งขัน
โดยครั้งนั้น ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย คือ คุณสุนิดา สกุลรัตนะ บอร์ดการท่าเรือฯ เองยังให้เงินกับผมมา 7 พันกว่าบาท เพื่อให้ไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลด้วย ทุกอย่างที่ผมทำเป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติของการท่าเรือแห่งประเทศไทยทุกอย่าง
ซึ่งการท่าเรือฯ เองอนุมัติให้ผมเป็นผู้ที่ดูแลทีม และให้ผมเป็นประธาน บ.สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย จำกัด อีกด้วย ผมเชื่อว่าผลการพิจารณาที่ออกมา บ.สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย จำกัด จะได้ถือสิทธิในการส่งทีมบริหารจัดการทีมเข้าร่วมการแข่งขันอย่างแน่นอน

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์

สวัสดีปีใหม่ไทย เทศกาลสงสงกรานต์ หลายทีมในลีกอาชีพใด้พักซ้อม 2-3 วัน แต่มีทีมเดียวคือ จุฬา ยูไนเต็ด ซ้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กุนซือใหญ่ชาวแซมบ้า โจเซ่ แฟร์ไรร่า สุดเฮี้ยบ สั่งนักเตะซ้อมตะลุยช่วงสงกรานต์เต็มที่แบบไม่มีหยุดสงกรานต์ อีกทีมที่หยุดวันเดียวคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด หวั่นนักเตะกลับมาหมดสภาพ สั่งให้พักแค่ 13 เม.ย. วันเดียว นักเตะอาชีพเป็นงานที่แปลกกว่าอาชีพอื่นมากเลยครับ เทศกาลสงกรานต์นี้ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ rich_t

ทีโอทีขึ้นป้ายขายกบไซเบอร์อย่างต่ำ1ล้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลในศึก ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ช่วงพักเบรกให้ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ 2 นัด โดย ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 ของตาราง จากการออกสตาร์ต 3 นัดแรก ได้ตั้งราคาขายนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมดีกรีทีมชาติไทย "กบ ไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีม ที่ถือเป็นนักเตะแม่เหล็กประจำทีมอย่างแท้จริง ที่ราคาถึง 1 ล้านกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมทีโอที กล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าเราคิดจะขาย สุเชาว์ นุชนุ่ม เพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เป็นกำลังหลักสำคัญของเราในขณะนี้ แต่หากมีทีมไหนต้องการอยากได้ตัวเขาไปเล่นให้จริงๆ ในฟุตบอลอาชีพ โดยเราตั้งราคาขายไว้ที่หลัก 1 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเล่นกับเรามานาน เรื่องฝีเท้าการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีดีกรีติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง" "หากถามผมว่า อยากจะขายให้ทีมในประเทศหรือไม่ คงไม่อยากขาย แต่ต้องการให้เขามีโอกาสได้ไปเล่นกับลีกต่างชาติมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสลีกของสิงคโปร์หรือวีลีกของเวียดนาม เพื่อมีโอกาสได้ไปเก็บเงินสักก้

ชัยนาทเปิดตัวชุดแหวกแนวทุ่มงบ200ล้านเปลี่ยนชื่อหวังติดท็อปไฟ

ชัยนาท ฮอร์นบิล ในชื่อใหม่เปิดตัวชุดแข่งขัน 2014 สุดฉีกแนวพร้อมประกาศงบ 200 ล้านบาทเทียบเท่าบิ๊กทีมหวังผฝาดท็อปไฟว์ของตาราง สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล หรือ ชัยนาท เอฟซี เดิม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมฤดูกาล 2014สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (15 ก.พ.) โดยมี อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสรเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ชัยนาท ตัดสินใจนำคำว่า ฮอร์นบิล (hornbill) ซึ่งแปลว่านกเงือกสัญลักษณ์ประจำสโมสรและจังหวัดมาต่อท้ายชื่อ พร้อมกับประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 200 ล้านบาท เทียบเท่ากับสโมสรชั้นนำ โดย "เสี่ยแฮงค์" ประธานสโมสรหวังพาทีมจบ 5 อันดับแรกของตารางไทยพรีเมียร์ลีก "ทีมชัยนาทในปีนี้ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงทีม ไม่ว่าจะเป็นการส่วนซื้อตัวผู้เล่นผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม เพื่อให้สโมสรมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเป้าหมายอย่างต่ำต้องติดท็อปเท็นของตาราง แต่จะให้ดีต้องติด 1 ใน 5 ถ้าทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ" สุรชัย จตุรภั