"กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2 สมัย เปิดตัวเป็นกุนซือคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ เอ็นริเก้ มานูเอล ดา ซิลวา คาลิสโต้ หรือที่แฟนบอลชาวไทย รู้จักกันดีในนาม "เอ็นริเก้ คาลิสโต้" ภายหลังจากที่ตัดสินใจฉีกสัญญาตัวเองกับการคุมทีมชาติเวียดนาม ซึ่งเพิ่งจะต่อสัญญาออกไปอีก 3 ปี ในช่วงเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา
ล่าสุดเดินทางมาหาความท้าทายใหม่ในเวทีไทยลีก พร้อมกับเปิดตัวเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของเมืองทองฯ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่ห้องแถลงข่าวภายในสนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม ท่ามกลางความสนใจจากผู้สื่อข่าวไทย และ เวียดนาม มาทำข่าวคับคั่ง
โดยอดีตกุนซือทีมชาติเวียดนาม รายนี้เซ็นสัญญา 2 ปี กับเมืองทองฯ ยูไนเต็ด อีกทั้งรับค่าเหนื่อยเฉียดล้านบาท พร้อมกันนั้น ยังมีออปชั่นพิเศษรถประจำตำแหน่ง และพักห้องสูทหรูที่โรงแรมโนโวเทล ในอิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ราคาคืนละ 4,400 บาท
อยากมาหาความท้าทายกับ "กิเลน"
โดย เอ็นริเก้ คาลิสโต้ กุนซือป้ายแดง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดใจภายหลังเข้ามารับตำแหน่งใหม่ของแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2 สมัยว่า "จากโค้ชทีมชาติเวียดนาม สู่การมาคุมทีมเมืองทองฯ แม้มันจะต่างกันในรายละเอียด แต่เป็นการตัดสินใจที่ไม่ต้องคิดนาน
ก่อนมาตนทราบดีว่า เมืองทองฯ เป็นทีมที่ดีที่สุดในไทย แม้ว่าจะเพิ่งก่อตั้งสโมสรได้ไม่นาน แต่การคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2, ดิวิชั่น 1 และไทยพรีเมียร์ลีก ถือว่าเป็นการเดิมพันที่สูงเมื่อมาคุมสโมสรแห่งนี้ ขณะเดียวกันตนอยากจะมาหาความท้าทายใหม่ในเวทีสโมสรระดับเอเชีย" อดีตกุนซือเวียดนาม กล่าว
ฟุ้งรู้สไตล์การเล่นนักเตะไทยเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน เอ็นริเก้ คาลิสโต้ ยังยืนยันอีกว่า "เป็นเวลา 10 ปี กับการเดินทางมาทำงานที่เวียดนาม ทั้งทีมชาติและสโมสรด่องทับ ลองอัน มีโอกาสเจอกับนักเตะไทยบ่อยครั้งในแต่ละปี ดังนั้นจึงค่อนข้างที่จะรู้สไตล์การเล่นของแต่ละคนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนักเตะทีมชาติไทย
ดังนั้นเรื่องที่จะมาเริ่มนับหนึ่งเรียนรู้ใหม่หมดคงจะไม่ใช่แน่ ส่วนเป้าหมายของการทำงานกับเมืองทองฯ ไม่เฉพาะแต่ต้องประสบความสำเร็จเพียงอย่างเดียว หากแต่ฟุตบอลต้องเล่นสวยงาม เอนเทอร์เทนคนดู สามารถคอนโทรลเกมได้ทั้งตอนที่ครอบครองบอลหรือไม่มีบอล และเราจะต้องจบเกมด้วยชัยชนะ"
ยันไม่กดดันแม้เป้าหมาย "กิเลน" คือแชมป์
ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า กดดันไหมกับการมาคุมทีมเมืองทองฯ ซึ่งมีเป้าหมายที่แชมป์ ขณะเดียวกันฟอร์มล่าสุดยังบุกไปแพ้อาร์มี่ ยูไนเต็ด ถึง 0-3 กุนซือคนใหม่เมืองทองฯ เผยว่า "ตลอดระยะเวลาการทำงานทางด้านโค้ชไม่มีครั้งไหนที่ไม่กดดัน แต่ประสบการณ์ในโปรตุเกส 20 ปี และที่เวียดนาม อีก 10 ปี ทำให้ผมรู้ว่า ควรจะเตรียมความพร้อมและจะแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าอย่างไรในสนาม"
ส่วนเกมล่าสุดที่พ่ายอาร์มี่ ยูไนเต็ด 0-3 นั้น "คาลิสโต้" กล่าวเสริมอีกว่า "ทุกทีมสามารถแพ้ได้หมด ต้องยอมรับว่าจุดเปลี่ยนของเกมอาจจะมาจากการที่แบ็กขวาโดนใบแดงไล่ออก จึงทำให้ทีมแพ้"