ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เสนอกฏห้ามแอลกอฮอล์,เชิ้ตดำเฮได้เพิ่มค่าเหนื่อย

สิงห์เชิ้ตดำไทยยิ้มร่า กระเป๋าตุงกว่าเก่า ในการลงตัดสิน 2 ลีก ไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 สมาคมลูกหนังไทยดีดตัวเลขที่ชัดเจนลงตัวออกมาแล้ว ผู้ตัดสินรับเนื้อๆ คู่ละ 4,300 บาท ผู้ช่วยผู้ตัดสิน 3,700 บาท ขณะที่ "เสธ.ตุ้ม" พลตรี ชินเสน ทองโกมล ประธานคณะกรรมการและติดตามประเมินผลผู้ตัดสิน เตรียมเสนอให้ร่างกฎห้ามจำหน่ายและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสนามฟุตบอล เด็ดขาดป้องกันเหตุวิวาท




สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้จัดประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนา เพื่อเป็นการช่วยยกระดับวงการผู้ตัดสินไทย ให้มีความเป็นสากล และมีความเป็นมาตรฐานของคณะกรรมการและติดตามประเมินผลผู้ตัดสินที่ได้รับการ แต่งตั้งจาก "ฟีฟ่ายี" วรวีร์ มะกูดี บอร์ดบริหารสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลฯ



ซึ่งก็ประกอบด้วย ส.ว.สุโข วุฒิโชติ ประธานที่ปรึกษาฯ พร้อมด้วย "เสธ.ตุ้ม" พลตรีชินเสน ทองโกมล ปธ.คณะกรรมการฯ รวมถึงคณะกรรมการอย่าง สมศักดิ์ อ่อนสมา, โสภิต ภาโนมัย, ปัญญา หาญลำยวง, พงศธร เพิ่มพานิช, ปรัชญา เพิ่มพานิช และ มงคล รุ่งคล้าย

โดยงานนี้ยังได้รับเกียรติจาก "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ สมาคมฟุตบอล ที่เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพียง ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา


"บิ๊กเปี๊ยก" แถลงเพิ่มค่าตอบแทนเปาไทย


ก่อนเข้าวาระการประชุม "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ บอลไทย ได้เปิดเผยให้ที่ประชุมได้รับทราบอย่างเป็นทางการ ถึงเรื่องของเงินค่าตอบแทนผู้ตัดสิน ทั้งในส่วนของศึกไทยพรีเมียร์ลีกและลีกดิวิชั่น 1 ประจำปี 2011 ที่ทางสมาคมฟุตบอลฯ ได้มีการอนุมัติออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะทำการเพิ่มค่าตอบแทนให้กับผู้ตัดสินในทุกๆ ตำแหน่งที่ลงทำน้าที่ต่อแมตช์

ประกอบด้วย ผู้ตัดสินจากเดิมที่ได้ 1,800 บาท จะได้รับเพิ่มอีก 2,500 บาท รวมเป็น 4,300 บาท, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 และ 2 จากเดิมที่ได้รับ 1,200 บาท จะได้รับเพิ่มอีก 2,500 บาท รวมเป็นเงิน 3,700 บาท ขณะที่ผู้ตัดสินที่ 4 และผู้ควบคุมผู้ตัดสินจะได้รับเท่ากันที่จากเดิม 800 บาท เพิ่มขึ้นอีก 1,700 บาท รวมเป็นเงิน 2,500 บาท



หวั่นเรื่องแอลกอฮอล์สร้างปัญหาวิวาท


ในส่วนของเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากแฟนบอลที่ก่อเหตุ ทะเลาะวิวาทกัน นับตั้งแต่ต้นซีซั่น เรื่องนี้ "เสธ.ตุ้ม" พลตรีชินเสน ทองโกมล ปธ.คณะกรรมการฯ ได้ออกโรงเกรงว่าหากบางสนามยังปล่อยปะละเลยให้แฟนฟุตบอลของตัวเองนำเครื่อง ดื่ม รวมถึงของมึนเมาเข้าไปในสนามเหมือนอย่างที่เป็นมา เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดจากความรุนแรงของแฟนฟุตบอล ก็อาจจะทะยอยมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องแน่ๆ

โดย "เสธ.ตุ้ม" ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า หากเป็นไปได้ ก็เตรียมที่จะเสนอให้ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ออกกฎห้ามสโมสรสมาชิกจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันแข่งขัน

แต่เรื่องนี้ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า ได้ออกมาชี้แจงว่า หากสั่งห้ามอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ ก็ดูจะส่งผลเสียไปยังสโมสรต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เข้ามาหนุนในเรื่องของงบประมาณ ในการสร้างทีม

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ดังนั้นเราจะต้องมีการหารือครั้งใหญ่ร่วมกับ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เกี่ยวกับการหามาตรการต่างๆ ที่จะเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้เหตุการณ์รุนแรงไม่คาดฝันเกิดขึ้น



หากดูไม่ดีแมตช์คอมสั่งยกเลิกได้


ในที่ประชุมยังได้มีการลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันถึงเรื่องที่ ว่าหากมีเหตุการณ์ไม่สู้ดีเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทของแฟนฟุตบอลที่มาจาก สาเหตุในการดื่มของมึนเมา และน่าจะมีทีท่าว่าเหตุการณ์จะไม่จบลงง่ายๆ

ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ ทางสมาคมฟุตบอลฯ รวมถึงคณะกรรมการและติดตามประเมินผลผู้ตัดสินก็จะให้สิทธิ์กับผู้ควบคุมการ แข่งขันได้ตัดสินใจอย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้แต่การสั่งยกเลิกการแข่งขัน ซึ่งผู้ควบคุมการแข่งขันสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้เลย


ลงล็อกจัดเปา 25 กลุ่มไทยลีก, ด.1



พร้อมกันนั้น "ส.ว.สุโข วุฒิโชติ" ประธานที่ปรึกษาฯ พร้อมด้วย "เสธ.ตุ้ม" พลตรีชินเสน ทองโกมล ปธ.คณะกรรมการฯ ก็ได้มีการเปิดเผยถึงวิธีจัดระบบผู้ตัดสิน ที่จะลงทำหน้าที่ทั้งในส่วนของศึกไทยพรีเมียร์ลีก รวมถึง ด.1 ด้วยการยกเลิกระบบจัดกลุ่ม 10 กลุ่ม ที่แต่ละกลุ่มจะมีผู้ตัดสินทั้งหมด 10 คน ซึ่งดูท่าว่าจะเยอะเกินไป มาใช้เป็นระบบกลุ่มย่อย

โดยมีทั้งสิ้น 25 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ประกอบด้วย ผู้ตัดสิน 1 ราย, ผู้ช่วยผู้ตัดสิน 2 ราย และ ผู้ตัดสินที่ 4 อีก 1 ราย ซึ่งทางคณะกรรมการ ก็จะมีการประเมินการทำหน้าที่ในทุกๆ สัปดาห์ เพื่อจัดอันดับกลุ่ม ที่จะได้เป็นตัวยืนรวมถึงสิ้น 9 กลุ่ม

ซึ่งก่อนจะได้ทำหน้าที่ก็จะตรวจสอบประวัติผู้ตัดสินทั้ง 4 รายว่า จะมีประวัติรวมถึงภูมิหลังเดิมพัวพันกับทั้ง 2 ทีมหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่าคนใดคนหนึ่ง มีประวัติ, ภูมิลำเนารวมถึงหน้าที่การงานคล้อยอิงกับสโมสรใดสโมสรหนึ่ง ทางคณะกรรมการก็จะสลับกลุ่มอื่นๆ มาทำหน้าที่แทน

โดยการจัดกลุ่มผู้ตัดสินในครั้งนี้ จะให้เวลาร่วมกันทำหน้าที่กลุ่มละ 1 เดือน ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตามคำสั่งของสมาคมฟุตบอลฯ และคณะกรรมการและติดตามประเมินผลผู้ตัดสินต่อไป

การจัดกลุ่มผู้ตัดสินในลักษณะกลุ่มย่อย 25 กลุ่ม ก็ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่จะเป็นการดูพัฒนาการและศักยภาพของผู้ตัดสินทุกคน กันอย่างละเอียด ซึ่งก็จะมีผลต่อการประเมินเพื่อพิจารณากลุ่มผู้ตัดสินที่จะได้รับรางวัลผู้ ตัดสินไทยลีกยอดเยี่ยมประจำเดือนที่จะได้รับเงินรางวัลกลุ่มละ 70,000 บาท รวมถึงกลุ่มผู้ตัดสินด.1 ยอดเยี่ยมประจำเดือนที่จะได้รับเงินขวัญถุง 60,000 บาท


เครือข่าย ยช.ป้องกันนักดื่มบุกไทยพรีเมียร์ลีก



ขณะที่ คำรณ ชูเดชา ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนเยาวชน เพื่อการพัฒนาพร้อมด้วยเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ รวมกว่า 40 ชีวิต ได้เดินทางเข้าพบ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ปธ.บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เพื่อนแสดงจุดยืนในการสนับสนุนแนวคิดในเรื่องการห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามคนเมาเข้าสนามฟุตบอล พร้อมทั้งเสนอนโยบายเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวอีกด้วย

"คำรณ ชูเดชา" ได้เปิดเผยด้วยว่า "ที่ผ่านมาการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกในหลายๆ สนาม ดูจะยังขาดความใสใจและความเข้มงวด ปล่อยให้มีการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาสนามกันอย่างไม่ได้ละเว้น

ดังนั้นการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกครั้งนี้ ผมเองคิดว่าทุกภาคส่วน น่าจะเล็งเห็นถึงความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมในสนาม ส่วนหนึ่งเกิดจากสาเหตุของความคึกคะนอง คุมสติไม่อยู่ และร้านค้าส่วนใหญ่ที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ก็ดูจะไม่มีใบอนุญาตที่ชัดเจน ดังนั้นเราก็ควรที่จะช่วยกันรณรงค์ในเรื่องนี้ให้อย่างถึงที่สุด"

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์

สวัสดีปีใหม่ไทย เทศกาลสงสงกรานต์ หลายทีมในลีกอาชีพใด้พักซ้อม 2-3 วัน แต่มีทีมเดียวคือ จุฬา ยูไนเต็ด ซ้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กุนซือใหญ่ชาวแซมบ้า โจเซ่ แฟร์ไรร่า สุดเฮี้ยบ สั่งนักเตะซ้อมตะลุยช่วงสงกรานต์เต็มที่แบบไม่มีหยุดสงกรานต์ อีกทีมที่หยุดวันเดียวคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด หวั่นนักเตะกลับมาหมดสภาพ สั่งให้พักแค่ 13 เม.ย. วันเดียว นักเตะอาชีพเป็นงานที่แปลกกว่าอาชีพอื่นมากเลยครับ เทศกาลสงกรานต์นี้ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ rich_t

ทีโอทีขึ้นป้ายขายกบไซเบอร์อย่างต่ำ1ล้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลในศึก ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ช่วงพักเบรกให้ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ 2 นัด โดย ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 ของตาราง จากการออกสตาร์ต 3 นัดแรก ได้ตั้งราคาขายนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมดีกรีทีมชาติไทย "กบ ไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีม ที่ถือเป็นนักเตะแม่เหล็กประจำทีมอย่างแท้จริง ที่ราคาถึง 1 ล้านกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมทีโอที กล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าเราคิดจะขาย สุเชาว์ นุชนุ่ม เพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เป็นกำลังหลักสำคัญของเราในขณะนี้ แต่หากมีทีมไหนต้องการอยากได้ตัวเขาไปเล่นให้จริงๆ ในฟุตบอลอาชีพ โดยเราตั้งราคาขายไว้ที่หลัก 1 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเล่นกับเรามานาน เรื่องฝีเท้าการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีดีกรีติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง" "หากถามผมว่า อยากจะขายให้ทีมในประเทศหรือไม่ คงไม่อยากขาย แต่ต้องการให้เขามีโอกาสได้ไปเล่นกับลีกต่างชาติมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสลีกของสิงคโปร์หรือวีลีกของเวียดนาม เพื่อมีโอกาสได้ไปเก็บเงินสักก้

ชัยนาทเปิดตัวชุดแหวกแนวทุ่มงบ200ล้านเปลี่ยนชื่อหวังติดท็อปไฟ

ชัยนาท ฮอร์นบิล ในชื่อใหม่เปิดตัวชุดแข่งขัน 2014 สุดฉีกแนวพร้อมประกาศงบ 200 ล้านบาทเทียบเท่าบิ๊กทีมหวังผฝาดท็อปไฟว์ของตาราง สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล หรือ ชัยนาท เอฟซี เดิม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมฤดูกาล 2014สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (15 ก.พ.) โดยมี อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสรเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ชัยนาท ตัดสินใจนำคำว่า ฮอร์นบิล (hornbill) ซึ่งแปลว่านกเงือกสัญลักษณ์ประจำสโมสรและจังหวัดมาต่อท้ายชื่อ พร้อมกับประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 200 ล้านบาท เทียบเท่ากับสโมสรชั้นนำ โดย "เสี่ยแฮงค์" ประธานสโมสรหวังพาทีมจบ 5 อันดับแรกของตารางไทยพรีเมียร์ลีก "ทีมชัยนาทในปีนี้ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงทีม ไม่ว่าจะเป็นการส่วนซื้อตัวผู้เล่นผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม เพื่อให้สโมสรมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเป้าหมายอย่างต่ำต้องติดท็อปเท็นของตาราง แต่จะให้ดีต้องติด 1 ใน 5 ถ้าทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ" สุรชัย จตุรภั