ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ยกนิ้ว!!บุรีรัมย์เอเอฟซีซูฮกระบบจัดการสุดเจ๋ง

ทีมงานเอเอฟซี ยกนิ้วทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ มีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องของระบบการบริหารและการจัดการ ที่ไปเป็นทีมมาตรฐานของทางเอเอฟซี ทุกอย่าง เชื่อว่าอนาคต จะก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของทวีปเอเชียได้อย่างแน่นอน





หลังจากคณะทำงานของเอเอ ฟซี นำโดย มิสเตอร์ ทาโกอากิ ซูซูกิ หัวหน้าคณะ พร้อมด้วยทีมงาน ยังคงเดินหน้าตรวจความพร้อมสภาพ 18 ทีมไทยลีกอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ได้เดินทางไปตรวจความพร้อมของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ ณ อาคารสิริภิญโญ ถ.ศรีอยุธยา โดยมี นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง กรรมการผู้จัดการสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ให้การต้อนรับ



การเดินทางไปครั้งนี้ ได้มีการแบ่งกลุ่มสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่สโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ เกี่ยวกับการบริหารจัดการของฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายจัดการแข่งขัน, ฝ่ายการเงิน, ฝ่ายการตลาด, ฝ่ายสื่อมวลชน และพัฒนาเยาวชนของสโมสร โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

หลังจากเสร็จสิ้น จากตรวจงานของเอเอฟซี นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง ได้เปิดเผยถึงการประเมินของเจ้าหน้าที่เอเอฟซีในครั้งนี้ว่า ทางเอเอฟซีค่อนข้างจะพอใจ ในแผนการบริหารงานของสโมสรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการก่อสร้างสนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยมแห่งใหม่ ที่กำลังจะเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ในช่วงเลกที่ 2 ของฤดูกาลนี้ หลังจากวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสนามแห่งใหม่ ที่จังหวัดบุรีรัมย์มาแล้ว

สำหรับสนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยมแห่งใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ โดยสนามจะมีความจุทั้งหมด 24,000 คน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ระบบการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานของเอเอฟซีด้วย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่ง ที่จะใช้สำหรับจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ๆ อย่างการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก

นอกจากนี้ ทางคณะทำงานของเอเอฟซี ยังกล่าวชื่นชมสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของระบบการบริหารและการจัดการที่ไปเป็นทีมมาตรฐาน ของทางเอเอฟซี ทุกอย่าง เชื่อว่าอนาคตจะก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของทวีปเอเชียได้อย่างแน่นอน

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์

สวัสดีปีใหม่ไทย เทศกาลสงสงกรานต์ หลายทีมในลีกอาชีพใด้พักซ้อม 2-3 วัน แต่มีทีมเดียวคือ จุฬา ยูไนเต็ด ซ้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กุนซือใหญ่ชาวแซมบ้า โจเซ่ แฟร์ไรร่า สุดเฮี้ยบ สั่งนักเตะซ้อมตะลุยช่วงสงกรานต์เต็มที่แบบไม่มีหยุดสงกรานต์ อีกทีมที่หยุดวันเดียวคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด หวั่นนักเตะกลับมาหมดสภาพ สั่งให้พักแค่ 13 เม.ย. วันเดียว นักเตะอาชีพเป็นงานที่แปลกกว่าอาชีพอื่นมากเลยครับ เทศกาลสงกรานต์นี้ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ rich_t

ทีโอทีขึ้นป้ายขายกบไซเบอร์อย่างต่ำ1ล้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลในศึก ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ช่วงพักเบรกให้ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ 2 นัด โดย ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 ของตาราง จากการออกสตาร์ต 3 นัดแรก ได้ตั้งราคาขายนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมดีกรีทีมชาติไทย "กบ ไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีม ที่ถือเป็นนักเตะแม่เหล็กประจำทีมอย่างแท้จริง ที่ราคาถึง 1 ล้านกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมทีโอที กล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าเราคิดจะขาย สุเชาว์ นุชนุ่ม เพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เป็นกำลังหลักสำคัญของเราในขณะนี้ แต่หากมีทีมไหนต้องการอยากได้ตัวเขาไปเล่นให้จริงๆ ในฟุตบอลอาชีพ โดยเราตั้งราคาขายไว้ที่หลัก 1 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเล่นกับเรามานาน เรื่องฝีเท้าการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีดีกรีติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง" "หากถามผมว่า อยากจะขายให้ทีมในประเทศหรือไม่ คงไม่อยากขาย แต่ต้องการให้เขามีโอกาสได้ไปเล่นกับลีกต่างชาติมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสลีกของสิงคโปร์หรือวีลีกของเวียดนาม เพื่อมีโอกาสได้ไปเก็บเงินสักก้

ชัยนาทเปิดตัวชุดแหวกแนวทุ่มงบ200ล้านเปลี่ยนชื่อหวังติดท็อปไฟ

ชัยนาท ฮอร์นบิล ในชื่อใหม่เปิดตัวชุดแข่งขัน 2014 สุดฉีกแนวพร้อมประกาศงบ 200 ล้านบาทเทียบเท่าบิ๊กทีมหวังผฝาดท็อปไฟว์ของตาราง สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล หรือ ชัยนาท เอฟซี เดิม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมฤดูกาล 2014สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (15 ก.พ.) โดยมี อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสรเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ชัยนาท ตัดสินใจนำคำว่า ฮอร์นบิล (hornbill) ซึ่งแปลว่านกเงือกสัญลักษณ์ประจำสโมสรและจังหวัดมาต่อท้ายชื่อ พร้อมกับประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 200 ล้านบาท เทียบเท่ากับสโมสรชั้นนำ โดย "เสี่ยแฮงค์" ประธานสโมสรหวังพาทีมจบ 5 อันดับแรกของตารางไทยพรีเมียร์ลีก "ทีมชัยนาทในปีนี้ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงทีม ไม่ว่าจะเป็นการส่วนซื้อตัวผู้เล่นผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม เพื่อให้สโมสรมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเป้าหมายอย่างต่ำต้องติดท็อปเท็นของตาราง แต่จะให้ดีต้องติด 1 ใน 5 ถ้าทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ" สุรชัย จตุรภั