น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงของเมืองไทย เปรยอยากเห็นบอลไทยไปบอลโลกกลายเป็นจริงขึ้นมา ตั้งความหวังมีลุ้นในปี 2018 และทีมปรีโอลิมปิก ก็หวังเข้ารอบในปี 2020 ประกาศรัฐบาล พร้อมสนับสนุนวงการฟุตบอล และวงการกีฬาเต็มที่ เพราะคลุกคลีกับเรื่องฟุตบอลมาหลายปี โดยเน้นพัฒนาเยาวชน ให้ทุนการศึกษาจนเรียนจบมหาวิทยาลัย รวมถึงลงรากหญ้าสร้างลานกีฬา และสนามกีฬาระดับชุมชนด้วย
ภารกิจของว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเมืองไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกี่ยวกับเรื่องกีฬาของประเทศ ได้มีการเปิดใจเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา เมื่อได้เข้าไปเยี่ยมชมเกมการแข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2011 รอบที่สาม ระหว่างทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งศึก ไทยพรีเมียร์ลีก กับ สมุทรปราการ ยูไนเต็ด ทีมจากดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่สนามยามาฮ่า สเตเดี้ยม
ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนบอล ที่เข้ามาชมเป็นอย่างมาก เมื่อได้เดินลงไปทักทายกับนักเตะทั้งสองทีม ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา ก่อนที่จะโบกมือให้กับแฟนบอลรอบสนาม และขึ้นมานั่งชมการแข่งขันบนอัฒจันทร์ด้วย
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้กล่าวถึงการสนับสนุนเรื่องกีฬา โดยเฉพาะเรื่องของฟุตบอล ที่กำลังได้รับความนิยมในเวลานี้ว่า ดีใจกับวงการฟุตบอลบ้านเรา ที่ก้าวมาถึงจุดนี้ ส่วนตัวก็คลุกคลีกับการส่งเสริมฟุตบอลมาตลอด เมื่อเห็นกระแสตอบรับที่ดี มีแฟนบอลเข้าชมเกมแต่ละนัดนับหมื่นคน มีสนามฟุตบอลเกิดขึ้นมากมาย และที่สำคัญ เกมการแข่งขันก็ดุเดือดเร้าใจด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ต่อการที่จะพัฒนาต่อไป
"ส่วนว่า เมื่อจัดตั้งรัฐบาลแล้ว จะมีแนวทางในการส่งเสริมเรื่องของฟุตบอลอย่างไร ว่าที่นายกรัฐมนตรีก็กล่าวว่า มีการวางแนวทางไว้แล้ว อย่างแรกสุดคือต้องพัฒนาเรื่องของเยาวชนก่อน ส่งเสริมให้เล่น และฝึกฟุตบอลตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ และสนับสนุนจนก้าวไปสู่การเป็นนักเตะอาชีพ"
"ซึ่งในการสนับสนุน จะต้องมีการเปิดอบรมฝึกฝน และส่งเสริมการแข่งขันด้วยจะได้เพิ่มพูนประสบการณ์ รวมถึงจะมีการส่งเสริมเรื่องทุนการศึกษากับนักฟุตบอลจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมาเราอาจจะมีอยู่แล้ว แต่จากนี้ไปยังต้องเพิ่มในเรื่องทุนเป็นสองเท่าเพื่อให้มีนักกีฬาเพิ่มขึ้นมาอีก"
"นอกจากเรื่องของเยาวชนแล้ว ในส่วนของการปรับปรุงด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ก็เป็นเรื่องจำเป็น ทำอย่างไรที่จะให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับต่างประเทศ ตรงนี้จะลงไปดูและปรับปรุงการเรียนการสอนมากขึ้นจะได้นำความรู้มาใช้กับเรื่องของกีฬาได้" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ประเด็นสุดท้าย "มาดามปู" ได้กล่าวว่า นอกจากสนับสนุนสิ่งต่างๆ แล้ว เรื่องของการส่งเสริมการแข่งขันให้มากขึ้น เพิ่มการถ่ายทอดสดให้กระจายครอบคลุม มีการสร้างลานกีฬาลงไปถึงระดับชุมชนทั่วประเทศ เพราะลานกีฬานอกจากเรื่องฟุตบอลแล้ว
ก็ยังส่งเสริมในเรื่องกีฬาอื่นๆ ด้วย เพื่อให้ชุมชนได้ออกกำลังกายและห่างไกลยาเสพติด สนับสนุนเรื่องของการแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะตั้งแต่ระดับชุมชนขึ้นมาถึงจังหวัดและระดับประเทศ รวมถึงรัฐบาลจะมีการจัดสรรงบประมาณในการสร้างสนามกีฬาระดับชุมชนด้วย ส่วนว่าจะเท่าไหร่ก็จะขอเข้าไปศึกษาก่อน และจะมอบหมายให้รัฐมนตรีกีฬาดูแลต่อไป
มีการถามว่า ฟุตบอลลีกภูมิภาคกำลังบูมในเวลานี้ จะมีการส่งเสริมในเรื่องใดบ้าง ทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เผยว่า นับเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกจังหวัดต่างก็มีสโมสร และให้ความสำคัญในการสร้างทีม สามารถสร้างนักกีฬา มีการดึงเอานักเตะต่างชาติเข้ามาเล่น ซึ่งภาพรวมรัฐบาลก็จะสนับสนุนเรื่องของการแข่งขันเพื่อยกระดับให้ลีกเข้มแข็งขึ้น
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ขอบคุณทุกคนโดยเฉพาะสื่อมวลชนสายกีฬา ส่วนตัวทำงานกีฬามาหลายปีแล้ว และมีความผูกพันมาก ยังไงก็จะส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะตนเป็นคนหนึ่งที่อยากจะเห็นฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งเราตั้งความหวังเอาไว้ในปี 2018 รวมถึงทีมปรีโอลิมปิกในปี 2020 ด้วยที่อยากจะเห็นฟุตบอลไทยไปสู่จุดนั้น
จากนั้นทาง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ กองหน้าคนใหม่ของทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้นำเสื้อแข่งของสโมสร "กิเลนผยอง" ปักหมายเลข 7 พร้อมกับชื่อ "PIKE" มามอบแก่ "น้องไปป์" หรือ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นที่ระลึกด้วย