เป็นอีกหนึ่งสโมสรระดับตำนานของเมืองไทย ที่ทำท่าจะปิดฉากยุบทีมลงไปตามกาลเวลา สำหรับสโมสร “ชาววัง” ราชวิถี หลังจากความพ่ายแพ้ในเกมเพลย์ออฟฟุตบอลดิวิชั่น 1 ต่อทีมสโมสรฟุตบอลไทย-ฮอนด้า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราชวิถีต้องกระเด็นร่วงลงไปสู่ดิวิชั่น 2 ในฤดูกาลหน้า
โดย “กราวกีฬาไทยรัฐ” ได้รับการเปิดเผยจาก พลตรี ม.จ.จุลเจิม ยุคล ประธานสโมสร และผู้จัดการทีมราชวิถี ถึงข่าวคราวดังกล่าวว่า คงไม่ถึงกับเป็นการยุบสโมสร แต่ให้เรียกว่าเป็นการยุบทีมชั่วคราวก็แล้วกัน เพราะการที่เราตกชั้นไปเล่นดิวิชั่น 2 มันก็เหมือนกับการ ถอยหลัง 1 ก้าวเพื่อเตรียมกระโจนไปข้างหน้าอีก 2 ก้าวในอนาคต โดยตนจะโละนักเตะชุดปัจจุบันทั้งหมดให้แยกย้ายไปเล่นสโมสรอื่นตามแต่สะดวก ส่วนทีมที่จะเล่นดิวิชั่น 2 นั้น ก็จะใช้ขุมกำลังดาวรุ่งเยาวชนสายเลือดใหม่ อายุระหว่าง 16-19 ปี ลงเล่น ซึ่งนักเตะเหล่านี้เป็นเด็กนักฟุตบอลจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล
“ผมยอมรับว่าสโมสรฟุตบอลไทยในปัจจุบัน ถ้าจะหวังผลเลิศก็ต้องเป็นทีมเอกชนที่มีเงินถุงเงินถัง ที่พอจะซื้อนักเตะดีๆเข้ามาเสริมทีมได้ ประเภทสร้างนักบอลขึ้นมาเองเหมือนสมัยก่อนไม่มีแล้ว ดังนั้นราชวิถีก็ต้องยอมรับสภาพในจุดนี้ เพราะลำพังเล่นในดิวิชั่น 1 ก็ต้องใช้งบถึง 8 ล้านบาท ถ้าไทยลีกก็เพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว ซึ่งตนมาคิดทบทวนแล้วไม่ไหว และทางออกที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือการหันมาปั้นเด็กเองแล้วค่อยๆไต่จากลีกล่าง ขึ้นไปใหม่นั่นแหละเหมาะสมที่สุดสำหรับสโมสรเรา” ประธานสโมสรชาววังกล่าว
ส่วนในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ ครั้งที่ 33 ที่กำลังจะระเบิดแข้งรอบคัดเลือกในเดือนหน้า ซึ่งราชวิถีเป็น 1 ใน 20 สโมสรที่จะลงลุยแข้งด้วย หม่อมจุลเจิมเผยว่า เราก็คงต้องขอถอนทีมไป โดยให้สิทธิสโมสรบางกอกกล๊าส ที่เป็นพันธมิตรกันอยู่ เข้าไปสวมสิทธิแทน เพราะตอนนี้ทีมราชวิถีได้ปล่อยนักฟุตบอลออกจากทีมไปหมดแล้ว
ที่มา http://www.thairath.co.th