ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กกท. จัดสัมมนาแนวทางดำเนินงาน และการพัฒนาฟุตบอลอาชีพ ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2






กก ท. จัดสัมมนาแนวทางดำเนินงาน และการพัฒนาฟุตบอลอาชีพ ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โดยทำงานกับสมาคมบอลไทย และประสาน อบจ. หางบหนุนทีม "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกบอลไทย เตรียมทำหนังสือคู่มือวิชั่นการพัฒนาทีม แจกให้จังหวัดต่างๆ นำไปศึกษา ด้าน "โค้ชหรั่ง" ชี้แนวทางฟุตบอลอาชีพถ้าสร้างทีมดีๆ ได้เข้าไปเล่นในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีกสโมสรจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนอย่างมหาศาล


นาย วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมด้วย นายพีระ ฟองดาวิรัตน์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ร่วมเป็นประธาน พร้อมด้วย นายวิมล กาญจนะ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2, นายสามารถ มะลูลีม รองประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร, นายชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลทีมชาติไทย และ นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ในการอบรมสัมมนา แนวทางการดำเนินงานและการพัฒนาฟุตบอลอาชีพลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ที่โรงแรมทาวน์ อิน ทาวน์ กทม. เมื่อวันศุกร์ที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา

ฟุตบอลอาชีพลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ซึ่งกำลังดำเนินการแข่งขันอยู่ แบ่งออกเป็น 5 ภาค ประกอบด้วย ภาคกรุงเทพมหานครและปริมณฑล, ภาคเหนือ, ภาคกลางและตะวันออก, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคใต้ โดยมีผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาฯ ทั้ง 5 ภาค และหัวหน้าศูนย์การกีฬาฯ ทุกจังหวัดเข้าร่วมการอบรมสัมมนาในครั้งนี้ ใช้เวลาการอบรมรวม 2 วัน ในวันที่ 22-23 พ.ค. นี้

"บังยี" วรวีร์ มะกูดี เผยว่า การแข่งขันฟุตบอลลีกในเมืองไทย ปัจจุบันกำลังไปได้สวย มีแฟนบอลให้ความสนใจแห่เข้ามาชมจำนวนมาก ทางสมาคมฟุตบอลฯ เตรียมทำคู่มือวิชั่นในการพัฒนาทีม พัฒนานักเตะ รวมทั้งการพัฒนาผู้ตัดสิน มอบให้กับทุกจังหวัดนำไปศึกษาแนวทางในการปฏิบัติ ให้เป็นลีกอาชีพที่สมบูรณ์แบบต่อไป

ต่อจากนั้น นายพีระ ฟองดาวิรัตน์ กล่าวว่า ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย จะใช้การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นด้วยการให้ผู้อำนวยการศูนย์ทั้ง 5 ภาค เข้าไปดูแล และหัวหน้าศูนย์การกีฬาฯ ของทุกจังหวัดให้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสมาคมฟุตบอลฯ ที่จะไปตั้งศูนย์อยู่ทั้ง 5 ภาคในการพัฒนาลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ในการพัฒนาผู้ตัดสิน ผู้ควบคุมการแข่งขันที่จะใช้คนในภูมิภาคส่วนหนึ่งและจากส่วนกลางส่วนอีกส่วน หนึ่งในการทำงาน

พร้อมกับช่วยกันระดมสมองในการหาแนวทางการ ที่จะให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น แต่ละจังหวัดหางบเข้ามาดูแลทีมฟุตบอลของจังหวัดตัวเอง และภายใน 2 เดือน จะมีการประเมินผลงาน ใครงานดีจะได้ย้ายไปอยู่ในจังหวัดใหญ่ๆ ใครไม่พัฒนาก็จะถูกโยกย้ายไปอยู่ในจังหวัดที่เล็กๆ เพราะปัจจุบันนี้ทางภาครัฐ อยากเห็นคนเล่นกีฬาเป็นอาชีพได้ ถ้าทุกฝ่ายช่วยกันระดมสมองบอลอาชีพเต็มรูปแบบก็สามารถเกิดขึ้นบนผืนแผ่นดิน ไทยได้อย่างแน่นอน

ส่วน นายวิมล กาญจนะ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลไทย เราต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกิดการแข่งขันที่ยั่งยืนตลอดไป ส่วนของภาพรวมของสนามแข่งขันหลังจากที่การกีฬาฯ ยกให้ทาง อบจ.ไปดูแล สนามหลายแห่งใช้ได้ มีเพียงบางจังหวัดเท่านั้นที่ให้ปรับปรุง และ หลายทีมบริหารงานแบบมืออาชีพ หลายทีมยังต้องแก้ไข ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะส่งคนลงไปประเมินในการจัดลีกภูมิภาคอีกครั้งหนึ่ง

จาก นั้น "โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ได้พูดถึงการสร้างทีมฟุตบอลอาชีพในเมืองไทยว่า "เราต้องมองถึงจุดมุ่งหมายในการทำทีมว่า ทำทีมแล้วจะได้อะไรตอบแทนกลับมา โดยปัจจุบันทางเอเอฟซี หรือสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ได้ตั้งเงินรางวัลให้กับการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เอาไว้ถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน ถ้าผ่านเข้ารอบได้ในแต่ละรอบจะได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่าเป็นเงินหลักล้านบาท ทั้งในเรื่องของเงินรางวัล ค่าเดินทาง ค่าที่พัก แต่ทุกสโมสรที่เข้าแข่งขันจะต้องมีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในการทำทีม ซึ่งในปัจจุบันทีมสโมสรในเมืองไทยยังต้องไปเตะเพลย์ออฟก่อนเข้ารอบ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก

ดังนั้นเราต้องมาระดมสมองกันว่า จะทำอย่างไรให้สโมสรฟุตบอลในเมืองไทย ได้เข้าไปเล่นในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยไม่ต้องผ่านการเพลย์ออฟ และในปี 2011 ทางเอเอฟซี ได้กำหนดให้ทั้ง 3 ลีกของเมืองไทย จะต้องได้มาตรฐานตามที่เอเอฟซี กำหนดถึงจะมีสิทธิ์ในการเล่นเอเอฟซี แชมป์ลีก โดยไม่ต้องไปเตะเพลย์ออฟ"

จาก นั้น นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้พูดถึงการประชาสัมพันธ์การแข่งขัน รวมทั้งการหาสปอนเซอร์เข้ามาอุดหนุนทีม โดยทุกทีมในศึกลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 จะต้องมองถึงผลประโยชน์ของสปอนเซอร์ที่เข้ามาช่วยเหลือทีม

" เราจะทำอย่างไรให้ทางผู้สนับสนุนทีมมีความพอใจกับเงินที่เขาให้มา ส่วนในเรื่องของการประชาสัมพันธ์การแข่งขันที่จะเรียกร้องให้คนเข้ามาชมใน สนาม ก็มีด้วยกันหลายทางทั้งเสียงตามสาย ใช้รถแห่ ติดป้ายคัตเอาต์ตามแยกใหญ่ๆ รวมทั้งสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ในจังหวัดทั้งวิทยุท้องถิ่น เคเบิลทีวี รวมทั้งตัววิ่งที่มีอยู่ริมถนน สิ่งเหล่านี้ช่วยประชาสัมพันธ์การแข่งขันได้เป็นอย่างดี"

สำหรับ การอบรมสัมมนาแนวทางในการดำเนินงานและการพัฒนาฟุตบอลอาชีพ ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 วันที่ 23 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมทาวน์ อิน ทาวน์ เริ่ม 09.00 น. แบ่งกลุ่มเวิร์กชอฟ เรื่องภารกิจความร่วมมือการดำเนินการและพัฒนาฟุตบอลอาชีพของลีกภูมิภาค 2 ระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทยกับสโมสรฟุตบอล และสมาคมกีฬาจังหวัด"

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์

สวัสดีปีใหม่ไทย เทศกาลสงสงกรานต์ หลายทีมในลีกอาชีพใด้พักซ้อม 2-3 วัน แต่มีทีมเดียวคือ จุฬา ยูไนเต็ด ซ้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ กุนซือใหญ่ชาวแซมบ้า โจเซ่ แฟร์ไรร่า สุดเฮี้ยบ สั่งนักเตะซ้อมตะลุยช่วงสงกรานต์เต็มที่แบบไม่มีหยุดสงกรานต์ อีกทีมที่หยุดวันเดียวคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด หวั่นนักเตะกลับมาหมดสภาพ สั่งให้พักแค่ 13 เม.ย. วันเดียว นักเตะอาชีพเป็นงานที่แปลกกว่าอาชีพอื่นมากเลยครับ เทศกาลสงกรานต์นี้ก็ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ rich_t

ทีโอทีขึ้นป้ายขายกบไซเบอร์อย่างต่ำ1ล้าน

ความเคลื่อนไหวของทีมฟุตบอลในศึก ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 ช่วงพักเบรกให้ทีมชาติไทย อุ่นเครื่องกับ นิวซีแลนด์ 2 นัด โดย ทีโอที เอฟซี ทีมอันดับ 7 ของตาราง จากการออกสตาร์ต 3 นัดแรก ได้ตั้งราคาขายนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำทีมดีกรีทีมชาติไทย "กบ ไซเบอร์" สุเชาว์ นุชนุ่ม มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีม ที่ถือเป็นนักเตะแม่เหล็กประจำทีมอย่างแท้จริง ที่ราคาถึง 1 ล้านกว่าบาทเป็นอย่างต่ำ "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ผจก.ทีมทีโอที กล่าวว่า "ไม่ใช่ว่าเราคิดจะขาย สุเชาว์ นุชนุ่ม เพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เป็นกำลังหลักสำคัญของเราในขณะนี้ แต่หากมีทีมไหนต้องการอยากได้ตัวเขาไปเล่นให้จริงๆ ในฟุตบอลอาชีพ โดยเราตั้งราคาขายไว้ที่หลัก 1 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเล่นกับเรามานาน เรื่องฝีเท้าการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีดีกรีติดทีมชาติอย่างต่อเนื่อง" "หากถามผมว่า อยากจะขายให้ทีมในประเทศหรือไม่ คงไม่อยากขาย แต่ต้องการให้เขามีโอกาสได้ไปเล่นกับลีกต่างชาติมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเอสลีกของสิงคโปร์หรือวีลีกของเวียดนาม เพื่อมีโอกาสได้ไปเก็บเงินสักก้

ชัยนาทเปิดตัวชุดแหวกแนวทุ่มงบ200ล้านเปลี่ยนชื่อหวังติดท็อปไฟ

ชัยนาท ฮอร์นบิล ในชื่อใหม่เปิดตัวชุดแข่งขัน 2014 สุดฉีกแนวพร้อมประกาศงบ 200 ล้านบาทเทียบเท่าบิ๊กทีมหวังผฝาดท็อปไฟว์ของตาราง สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล หรือ ชัยนาท เอฟซี เดิม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมฤดูกาล 2014สนามเขาพลอง สเตเดี้ยม เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (15 ก.พ.) โดยมี อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสรเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุน สตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ ชัยนาท ตัดสินใจนำคำว่า ฮอร์นบิล (hornbill) ซึ่งแปลว่านกเงือกสัญลักษณ์ประจำสโมสรและจังหวัดมาต่อท้ายชื่อ พร้อมกับประกาศทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 200 ล้านบาท เทียบเท่ากับสโมสรชั้นนำ โดย "เสี่ยแฮงค์" ประธานสโมสรหวังพาทีมจบ 5 อันดับแรกของตารางไทยพรีเมียร์ลีก "ทีมชัยนาทในปีนี้ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ในการปรับปรุงทีม ไม่ว่าจะเป็นการส่วนซื้อตัวผู้เล่นผู้เล่นทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับปรุงสนามแข่งขันให้ได้มาตรฐานกว่าเดิม เพื่อให้สโมสรมีความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเป้าหมายอย่างต่ำต้องติดท็อปเท็นของตาราง แต่จะให้ดีต้องติด 1 ใน 5 ถ้าทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ" สุรชัย จตุรภั