สวัสดีครับแฟนบอลไทย
การแข่งขันฟุตบอล "ไทยพรีเมียร์ลีก 2010" หรือครั้งที่ 14 จะมีการเปิดสนามอย่างเป็นทางการ วันที่ 7 มี.ค. 53 ซึ่งได้มีการจัดแบ่งกลุ่มเพื่อวัดเกรดการประกบคู่แข่งขัน คืออันดับ 1-4 เป็นกลุ่ม เอ, อันดับ 5-8 เป็นกลุ่ม บี, อันดับ 9-12 กลุ่ม ซี และ อันดับ 13-16 กลุ่ม ดี
โดยปีนี้การประกบคู่จะให้ทีมกลุ่ม เอ เจอกับทีม กลุ่ม ซี และกลุ่ม บี เจอกลุ่ม ดี ก่อน โดยโปรแกรมนัดแรกออกมาดังนี้ เมืองทองฯ พบ สมุทรสงคราม, บางกอกกล๊าส พบ ราชนาวี-ระยอง, การไฟฟ้าฯ พบ ชลบุรี, พัทยาฯ พบ บีอีซี เทโรศาสน, ทีโอที พบ ศรีสะเกษ, ทหารบก พบ ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร, แบงค็อก พบ การท่าเรือไทย, โอสถสภาฯ พบ เพื่อนตำรวจ
ขู่ไม่มีสัญญาว่าจ้างห้ามลงเล่น
นอกจากนี้ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้ขึ้นแจ้งกับทุกทีมว่า ปี 2011 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า เอเอฟซีกำหนดมาแล้วว่าสนามเหย้าจะต้องผ่านเกณฑ์และพร้อมตามเงื่อนไขทุก ประการ โดยจะต้องมีความจุ 5,000 ที่นั่ง และจะต้องมีจำนวนแฟนบอลต่อนัด 5,000 คนเช่นกัน จากปีที่ผ่านมาเฉลี่ยที่ 3,200 คน สโมสรที่มียอดแฟนบอลเข้าชมมากสุดคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด, ราชนาวีระยอง, ชลบุรี, การท่าเรือฯ และ บางกอกกล๊าส ตามลำดับ ส่วนเรื่องของสัญญาว่าจ้างนักเตะที่ผ่านมาส่งบ้างไม่ส่งบ้าง ปีหน้าเราบังคับแล้วว่าจะต้องส่งให้ถูกต้อง ถ้าไม่มีสัญญาส่งมาก็จะไม่ให้นักเตะรายนั้นลงสนามเด็ดขาด
ปิดลงทะเบียนนักเตะ29มี.ค.
ด้าน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ประกาศแจ้งว่า สำหรับ 3 ทีมที่ขึ้นชั้นมาจากดิวิชั่น 1 คือ เพื่อนตำรวจ, ทหารบก และ ศรีสะเกษ จะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคตคลภาย วันที่ 30 พ.ย.นี้เท่านั้นและขอให้แจ้งสนามเหย้าภายในวันเดียวกัน โดยเดือน ธ.ค.จะเริ่มทำการตรวจสนามว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่
โดยปีหน้าทุกสนามจะต้องมีรั้วรอบขอบชิด ส่วนการขึ้นทะเบียนนักเตะขอให้ส่งรายชื่อ 20 คนแรกภายในวันที่ 12 ก.พ. 53 ส่วนที่เหลือที่จะไส่ให้ครบ 35 คนก็จะปิดการลงทะเบียนภายในวันที่ 29 มี.ค. นอกจากนี้ทุกทีมจะต้องมีทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปีที่จะทำการแข่งขันกันเป็นลีกสำรองด้วย โดยจะมีเงินรางวัลสำหรับทีมชนะเลิศด้วย