ที่ห้องประชุมของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ของวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีจัดการประชุมเพื่อหาข้อพิจารณาโทษเกมระหว่าง ชัยนาท เอฟซี ที่เปิดบ้านแพ้ พิจิตร เอฟซี เมื่อวันที่ 28 ส.ค. โดยมี วิมล กาญจนะ ประธานพัฒนาส่วนภูมิภาคดิวิชั่น 2, ชัยโชค พุ่มพวง อุปนายกสภาที่ปรึกษา สภานายกกิตติมศักดิ์, เกรียงสิทธิ์ หนุ่มรักชาติ ประธานศูนย์พัฒนาฟุตบอลดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ, สุเมธ สุวรรณพรหม ประธานการจัดการแข่งขันดิวิชั่น 2 โซนภาคกลาง
พร้อมด้วย บุญลือ จ้อยมี ผู้ตัดสิน ที่โดนแฟนบอลทำร้ายในนัดอื้อฉาว และ "เสี่ยอึ่ง" วันชัย ฮุ้นสกุล ผช.ผจก.ทีม "นกใหญ่พิฆาต" ชัยนาท เอฟซี ที่มาร่วมรับฟังคำตัดสิน โดยประชุมร่วมกว่า 3 ชั่วโมง จึงได้บทสรุปที่รองจ่าฝูง จากโซนภาคเหนือ จะต้องได้รับการลงโทษ
ซึ่ง ชัยโชค พุ่มพวง อุปนายกสภาที่ปรึกษา สภานายกกิตติมศักดิ์ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า เกมคู่ระหว่าง ชัยนาท เอฟซี และ พิจิตร เอฟซี ต้องถือได้ว่าเป็นแมตช์สำคัญ เนื่องจากทั้ง 2 ทีม ต่างมีอันดับอยู่ในตำแหน่งบนหัวตารางของโซนภาคเหนือ ซึ่งการแข่งขันเป็นไปด้วยความเข้มข้น ซึ่งก็มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม แต่ก็ไม่ได้หลายแรงแต่อย่างใด เมื่อจบเกมลงแล้ว
แต่เมื่อผู้ตัดสินได้เดินเข้าห้องพัก เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีชายจำนวน 4 คน ที่ไม่อาจระบุได้ว่าเป็นแฟนบอลของทีมใด เข้ามาทำร้ายผู้ตัดสิน จนถึงขั้นเลือดออก ทำให้ คุณเกรียงสิทธิ์ หนุ่มรักชาติ ที่ไปชมในเกมดังกล่าวต้องเข้ามาห้ามอย่างเร่งด่วน
ลงดาบห้ามเล่นในบ้าน 4 นัด, ปรับ 6 หมื่น
หลังจากนั้น ชัยโชค พุ่มพวง อุปนายกสภาที่ปรึกษา สภานายกกิตติมศักดิ์ ได้แถลงถึงบทลงโทษที่ทีม "นกใหญ่พิฆาต" ชัยนาท เอฟซี จะได้รับ "จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การทำร้ายผู้ตัดสินในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งแรก ที่เกิดขึ้นมา เนื่องจากเราไม่นับการตะลุมบอนกันของแฟนบอล ลพบุรี เมื่อเป็นเช่นนั้น บทลงโทษที่ทีม ชัยนาท จะมีอยู่ 3 ข้อ ด้วยกันประกอบไปด้วย
1. จะต้องถูกปรับเงินจำนวน 5 หมื่นบาท ให้กับทางสมาคมฟุตบอลฯ โทษ ฐานที่ไม่สามารถควบคุมแฟนบอลได้ 2.ทางทีม ชัยนาท เอฟซี ไม่มีสิทธิ์เตะในฐานะการเป็นเจ้าบ้าน 4 เกม ซึ่งจะต้องหาสนามเป็นกลางแข่งขันแทน โดยที่ ประธานศูนย์พัฒนาฟุตบอลดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ จะเป็นผู้หาให้ และ 3. ต้องให้เงินบำรุงขวัญผู้ตัดสินในนัดนี้ ที่โดนทำร้ายร่างกายจำนวน 1 หมื่นบาท" ชัยโชค พุ่มพวง กล่าวถึงบทลงโทษ
และอุปนายกสภาที่ปรึกษา สภานายกกิตติมศักดิ์ ยังได้เผยอีกว่า เรื่องทั้งหมดนี้ตนจะต้องทำหนังสือ เพื่อยื่นเรื่องไปทาง ท่านวรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานจัดการแข่งขันกับฝ่ายวินัยและข้อประท้วง เสียก่อน จึงจะสามารถให้ทางทีม ชัยนาท ยื่นอุทธรณ์ได้อาจโดนแบนถึงรอบ ชปล.
ต่อข้อสักถามของผู้สื่อข่าวสยามกีฬา ที่มีต่อ วิมล กาญจนะ ประธานพัฒนาส่วนภูมิภาคดิวิชั่น 2 ว่าการลงโทษในครั้งนี้ อาจจะแบนไปถึงรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทีม ชัยนาท เอฟซี น่าจะสามารถทะลุผ่านเข้าไปเล่นได้แล้วหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวได้กล่าวว่า
"ผมไม่ยังไม่อาจจะสามารถการันตีได้ว่าทีม ชัยนาท เอฟซี ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยหรือเปล่า แต่หากได้เข้าไปเล่นแล้ว ก็คงจะต้องนับบทลงโทษนี้ลงไปด้วย แต่จะสามารถอุทธรณ์โทษแบนได้ หากทางสโมสรได้ยื่นเรื่องมา และทำหนังสือไปทาง ท่านวรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานจัดการแข่งขัน แล้วเท่านั้น"
พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวสยามกีฬา ได้ยิงคำถามไปที่ เกรียงสิทธิ์ หนุ่มรักชาติ ประธานศูนย์พัฒนาฟุตบอลดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ ว่าจะหาสนามใดมาเป็นรังเหย้าให้กับ ชัยนาท เอฟซี ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ขณะนี้ตนได้มองไว้อยู่เพียงสนามเดียว แต่ไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากจะต้องรออนุมัติจากทางคณะกรรมการ โดยที่ทีม ชัยนาท จะต้องเป็นผู้ออกเงินเช่าเองทั้งหมด แต่สามารถให้แฟนบอลของทีมเข้าไปร่วมเชียร์ได้